เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากนายพศิษฐ์ สลักคำ ผู้ประสานเครือข่ายภาคประชาสังคม ประธานธนาคารไส้เดือน อ.กุดบาก จ.สกลนคร ว่าพบหญิงชราอายุ 70 ปี พิการขาข้างขวาด้วน ที่บ้านลาดกระเฌอ ม.12 ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร โดยอาศัยอยู่กับหลานชายเลี้ยงลูก 3 คน และหลานอีก 3 คน หลานชายต้องรับภาระเลี้ยงทั้งหมด อายุยังน้อย ตั้งแต่ ป.1 และอนุบาลในหมู่บ้าน สภาพครอบครัวลำบาก สุดท้ายภรรยาหลานชายคิดมากถึงกับป่วยทางจิต หาเงินรักษาไม่หาย ต้องปล่อยเดินตามถนน หายไปจากหมู่บ้าน ส่วนลูกสาวคนโต อายุ 13 ปี ไม่รู้หายไปที่ใด ทราบแต่ว่ามีครอบครัวที่อำเภออื่น

หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมคณะครูในโรงเรียน ที่บ้านหลังดังกล่าว พบน.ส.สอน บุตรแดง อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 ม.12 ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร และนายยัน นามสมมติ อายุ 30 ปี หลานชาย (ขอสงวนชื่อนามสกุล) โดยมีเด็กๆ อายุตั้งแต่ 3 ขวบ ถึง 7 ขวบ ที่เป็นเหลนลูกหลานสาว และหลานชาย รวม 6 คน

ยายสอน กล่าวว่า ตนเป็นคนในหมู่บ้าน อาศัยอยู่กับพ่อแม่แต่เสียชีวิตนานมาแล้ว ส่วนตนยังไม่ได้แต่งงาน เมื่ออายุ 18 ปี ตนประสบอุบัติเหตุรถชนจนได้รับบาดเจ็บ ต้องตัดขาข้างขวาทิ้งทำให้กลายเป็นผู้พิการ โดยอาศัยอยู่กับน้องสาวที่แต่งงานแล้ว เนื่องจากพ่อแม่เสียชีวิตหมด ต่อมาลูกของน้องสาวคือหลานชายของตนชื่อนายยันได้แต่งงานมีครอบครัว และให้ตนมาอยู่ด้วยเพื่อดูแลลูกให้ เพราะไปรับจ้างงานอื่นไม่ได้

ยายสอน กล่าวต่อว่า จนกระทัั่ง ภรรยาของนายยันได้คลอดลูกทั้งหมด 3 คน โดยคนโตเป็นหญิงสาว ขณะนี้ อายุประมาณ 13 ปี และมีน้องอีก 2 คน อายุ 3-5 ขวบ ที่ต้องดูแล นอกจากนี้ หลานสาวอีกคนยังได้นำลูกของเขามาฝากให้ดูแลอีก 3 คน ซึ่งทั้งหมดมีอายุไล่เรียงกัน ทำให้ฐานะที่แย่อยู่แล้วลำบากมากยิ่งขึ้น เพราะรายได้มาจากเบี้ยผู้พิการและสูงอายุของตนเท่านั้น เดือนละ 1,300 บาท ส่วนพ่อแม่ของเด็กๆ ก็ไม่ทราบว่าหนีไปทำงานที่ใด เพราะไม่สามารถติดต่อได้

ยายสอน กล่าวอีกว่า จนในที่สุดภรรยาของนายยันซึ่งมีอาการคิดมากเพราะลำบาก จึงทำให้เกิดอาการป่วยทางจิต กลายเป็นคนควบคุมตนเองไม่ได้ ซึ่งตนเคยพาไปรักษา แต่ก็ไม่มีเงิน พอกลับมาอยู่บ้านก็ป่วยอีก จนขณะนี้ต้องปล่อยไปตามยถากรรม บางวันก็พบเดินตามถนน บางวันก็ไม่พบ ก็ต้องปล่อยไป ตนสงสารเด็กทั้ง 6 คน ที่ขาดพ่อแม่

“คิดดูว่าเด็ก 6 คน อายุเท่าๆ กัน ไม่มีคนช่วย ซ้ำตนยังพิการ จะดูแลได้ขนาดไหน วันไหนมีกินก็พออยู่ได้ วันไหนไม่มีก็ต้องทน สงสารเด็ก ๆ อยากกินขนม อยากกินไอติม คนมาขายก็ได้แต่นั่งมองกลืนน้ำลายลงคอ ตนสงสารเด็กๆ บางครั้งถึงกับนั่งร้องให้” ยายสอน กล่าว

ยายสอน กล่าวว่า ส่วนหลานชายก็ออกรับจ้าง ไม่มีเวลาแม้แต่จะไปตามหาภรรยา ส่วนลูกสาวคนโตของนายยัน อายุ 13 ปี ก็ออกจากบ้านไปนานแล้ว ไม่รู้จะไปที่ใดทราบแต่ว่ามีครอบครัวแล้ว เกรงว่าจะถูกไปในทางไม่ดี ส่วนเด็กก็ลำบาก สภาพอากาศหนาวต้องทนผิงไฟ และขาดเสื้อผ้า

ด้าน ครูจากโรงเรียนคนหนึ่ง กล่าวว่า พวกตนก็ช่วยกันตามสภาพ เพราะที่นี่แม้จะเป็นเขตอำเภอเมือง แต่อยู่บนเทือกเขาภูพาน มีลูกศิษย์ตัวเล็กบางวันเขาก็ไม่ไปโรงเรียนต้องมาตาม จึงได้พบกับสภาพที่เป็นอยู่ เห็นแล้วก็น่าสงสาร ก็ช่วยได้ตามที่จะช่วย ถ้าหากท่านเห็นแล้วว่าน่าจะอยู่ในส่วนที่ช่วยได้ก็อยากขอความเมตตา ช่วยพวกเขาด้วย เพราะลำบากจริง

สำหรับท่านที่มีเมตตาจิตอยากให้ความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่ครูโรงเรียนบ้านลาดกะเฌอ ต.ห้วยยาง อ.เมืองสกลนคร หรือส่งเข้าบัญชี น.ส.สอน บุตรแดง บัญชีเลขที่ 985-0-57281-7 ธนาคารกรุงไทยสกลนคร หรือประสาน นายรำลึก อิงเอนุ ปลัด อบต.ห้วยยาง อ.เมืองสกลนคร เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป