ตลาดรัสเซีย…ปฏิวัติร้อยปี

ฉันอยากชวนฉลองครบรอบร้อยปีปฏิวัติรัสเซียมากเลย แต่ก็รู้สึกคนรัสเซียไม่ได้อยากฉลองเท่าไหร่ หนึ่งเพราะเขารู้สึกว่าการปฏิวัติมันไม่ได้นำความเจริญความกินดีอยู่ดีอะไรมาให้พวกเขาอย่างที่หวัง

ร้อยปีที่ผ่านมานี่ก็วุ่นวายหลั่งเลือดอดอยากกันมามากกว่าจะมีชีวีที่รื่นรมย์ และที่สำคัญ ยิ่งรัสเซียที่เคยยิ่งใหญ่นั้นก็ได้หดเล็กลงเหลือประเทศเดียวมาได้เกือบจะ 30 ปีแล้ว

อดีตยิ่งใหญ่โอฬารของสหภาพโซเวียตเหลือแต่อดีตมาตั้งแต่ปี 2534 โน่น

อันนี้คนรัสเซียเขาบอกว่าคนที่บอกว่าอาณาจักรเขาล่มสลายไปนั่นน่ะ ก็พูดแบบโปรอเมริกาเกินไป คือเห็นรัสเซียล้มเป็นเหยียบซ้ำ เขาบอกว่าเขาไม่ได้พังทลายล่มสลาย แค่มีการแยกตัวเป็นประเทศต่างๆ ไม่มากนัก

ไม่มากนักนั่นน่ะ 15 ประเทศทีเดียวเชียว นับเป็นการแยกตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว โดยส่วนที่เป็นรัสเซียอันมีมอสโกเป็นเมืองหลวงนั้นก็เป็นประเทศที่มีชื่อว่าสหพันธรัฐรัสเซีย

ปีนี้รัสเซียผ่านการปฏิวัติเปลี่ยนผ่านจากระบบกษัตริย์ มาเป็นระบบสังคมนิยม และเปลี่ยนมาสู่ระบบทุนนิยมอย่างในปัจจุบัน ครบร้อยปีพอดิบพอดี

นั่นนับตั้งแต่การปฏิวัติของพรรคบอลเชวิกเมื่อปี 2460 หลังเกิดจลาจลแย่งชิงอาหารในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก บ้านเมืองมีสงครามแต่ทหารหนีทัพก็เกลื่อนเมือง ทหารม้าคอสแซควางเฉย ไม่รับคำสั่งปราบปรามการชุมนุม เครื่องมือการปกครองปั่นป่วน ไร้ระเบียบวินัย นักปฏิวัติบอลเชวิกเชื่อว่านั่นเป็นสัญญาณว่าบ้านเมืองนี้พร้อมแล้วสำหรับการปฏิวัติ

แต่หลังจากนั้นอีกหลายปีรัสเซียก็ยังวุ่นวาย นองเลือด ปี 2461 บอลเชวิกโค่นล้มระบบกษัตริย์ สังหารราชสกุลและครอบครัวของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 แห่งราชวงศ์โรมานอฟ

จากนั้นโซเวียตก็ผ่านสงครามกลางเมือง ผ่านการพิสูจน์ลัทธิคอมมิวนิสต์ยามสงคราม เผชิญทุพภิกขภัย ผ่านเกษตรกรรมแบบนารัฐ-นารวม ผ่านการกวาดล้างศัตรูทางการเมือง ผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านสงครามเย็น มาจนถึงวันเปิดกว้างรับนโยบายเปเรสตรอยกาและกลาสนอสต์ ซึ่งทำให้สหภาพโซเวียตล่มสลาย

กระนั้นรัสเซียที่เหลืออยู่ก็ใช่ไก่กา แม้ไม่ใหญ่ทะมึนมากบารมีเป็นอาณาจักรเหมือนครั้งก่อนเก่า แต่ก็ยังเป็นประเทศใหญ่ในยุโรปตะวันออก มีทรัพยากรธรรมชาติอักโข โดยเฉพาะน้ำมันที่รัสเซียใช้เป็นไพ่ในมือทั้งในการหาเลี้ยงชีพ และในการต่อรองกับประเทศต่างๆ

คนรัสเซียว่าดีออก เป็นประเทศขนาดกลาง มีเวลาได้ดูแลประชาชน ได้พัฒนาตัวเอง ได้หาเงินใส่กระเป๋า ไม่ต้องหมกมุ่นกับการสร้างอาณาจักร บารมี ต้องเลี้ยงวงศ์วานว่านเครือมากมาย

นอกจากนั้น การจะสร้างบารมีสมัยใหม่นี้ก็ไม่จำต้องมีพื้นที่ใหญ่โตเสียเมื่อไหร่ ดูพวกประเทศในยุโรปตะวันตกสิ พื้นที่นิดเดียว แต่เข้มแข็งหยอกใคร

เรื่องใหญ่ไม่ไล่ไม่เลิก เรื่องจะสร้างอาณาจักรบารมี ปล่อยให้เป็นเรื่องอเมริกาไป คนรัสเซียสมัยใหม่เขาว่างั้น

คนรัสเซียในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา เริ่มเงยหน้าอ้าปากได้มากขึ้น มีลู่ทางทำมาหากินมากขึ้น เพราะระบบเศรษฐกิจเปิดมากขึ้น คนไม่ต้องเป็นเครื่องมือของรัฐ รับใช้รัฐ แล้วคอยรอรับการปันส่วนจากรัฐอย่างเดียวเหมือนยุคเก่า

ตลาดรัสเซีย จึงเป็นตลาดค้าขายกันเสรี ใช้ชีวิตกันแบบตะวันตก ในมอสโกมีอาหารกินด่วนจากอเมริกาเข้าไปขยายสาขา และขายดิบขายดี คนรัสเซียสมัยใหม่ไม่ได้หมกมุ่นกับความขัดแย้งใดๆ พวกเขายากจนมานานและตั้งตารอชีวิตที่ดีกว่า

ซึ่งบัดนี้มาถึงแล้ว พวกเขาจึงไม่รีรอจะไขว่คว้า

เราจะเห็นการไขว่คว้าหาชีวิตที่ดีกว่า จากเสียงร้องเจื้อยแจ้วขายสินค้าของพ่อค้าแม่ค้าในตลาด อย่างที่เมื่อ 20 ปีก่อนไม่มีทางได้ยิน เพราะก่อนนี้ตลาดเป็นของรัฐ ขายมากขายน้อยชีวิตจนเท่าเก่า

ไปเดินตลาดรัสเซีย จึงอย่าต่อรองมาก พวกเขายังยากจน และที่สำคัญ พวกเขายังติดอารมณ์ดุมาจากเมื่อก่อนเก่า ต่อรองไม่ดูตาม้าตาเรือจะเจอด่ารัวไฟแลบ

แต่โดยรวมแล้ว คนรัสเซียต้อนรับ และแสดงอาการต้อนรับเอามากๆ กับกำลังซื้อที่พวกเขารอคอยมานานแสนนาน