เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ กล่าวว่า ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประชาชนเข้าชมพระเมรุมาศ และนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ระหว่างวันที่ 2-30 พ.ย.นั้น

เนื่องจากมีประชาชนสนใจเข้าชมเป็นจำนวนมาก การนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาธิคุณที่จะให้ประชาชน เยาวชนและผู้ที่อยู่ในท้องถิ่นห่างไกลมีโอกาสเข้าชมพระเมรุมาศอันเป็นผลงานทางวัฒนธรรมไทยที่ทรงคุณค่า และนิทรรศการเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอย่างทั่วถึง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขยายเวลาการเข้าชมพระเมรุมาศและนิทรรศการไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. เนื่องจากต้องการให้นักเรียน นักศึกษาและประชาชนเข้าศึกษาเรียนรู้

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้พระราชทานพระราชานุญาตในครั้งนี้ เพราะพระองค์ท่านทรงทอดพระเนตรเห็นความรักและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพสกนิกรทุกคนที่มีต่อล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้าชมพระเมรุมาศและนิทรรศการได้ต่อเนื่องอีก 1 เดือน โดยล่าสุดมียอดผู้เข้าชมรวมแล้วกว่า 2 ล้านคน”พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า สำหรับการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนนั้น รัฐบาลได้ปรับเวลาเปิดจุดคัดกรองและเต้นท์นั่งพักรอให้เร็วขึ้น เริ่มตั้งแต่เวลา 05.00 น. และเปิดให้เข้าชมรอบแรกราว 06.00 น. มีจุดคัดกรองทั้งสิ้น 5 จุด คือ 1. บริเวณหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (รด.) 2. ถนนด้านท่าช้าง 3. ถนนด้านพระแม่ธรณีบีบมวยผม 4. หลังกระทรวงกลาโหม และ 5. ด้านหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยขอความร่วมมือประชาชนแต่งกายสุภาพและปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

วันเดียวกันที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่า ในการประชุมสภากลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เน้นย้ำหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการเหล่าทัพ จัดพิธีทำบุญตักบาตร เพื่อเป็นพระราชกุศลวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อประเทศชาติและชาวไทยทุกหมู่เหล่า พร้อมเชิญชวนกำลังพลและครอบครัวเข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง

พล.ท.คงชีพกล่าวต่อว่า พล.อ.ประวิตรยังเน้นย้ำให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ ดำเนินโครงการจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ ในการริเริ่มกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน ทั้งภาคประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด เช่นการพัฒนาแหล่งน้ำการทำความสะอาดสถานที่ราชการ โดยประสานงานร่วมกับศูนย์อำนวยการใหญ่โครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ

ส่วนที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร มูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคม จัดโครงการอุปสมบทพระภิกษุ ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสเจริญพระชันษา 91 ปี โดยมีผู้เข้าร่วมบรรพชา 95 รูป และอุปสมบทสามเณร 4 รูป