“สิงโต นำโชค” ปลื้มได้ซึมซับพลังงานดีๆ “พี่ตูน” สงสัยทำได้ยังไงวิ่งเป็นพันกิโล

วันที่ 28 พ.ย. ที่ Pardzy Alive Studio โชคชัย 4 “สิงโต นำโชค” นักร้องหนุ่มชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ระหว่างถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเพลง “น่าดู” ซิงเกิลใหม่ล่าสุดของตัวเอง ถึงความรู้สึกที่ได้ไปร่วมวิ่งกับ ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ “ตูน บอดี้สแลม” ในโครงการก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ”

โดย ‘สิงโต’ กล่าวว่า “ผมเริ่มออกกำลังกายมาระยะหนึ่ง แล้วคุณหมอแนะนำให้วิ่งเพราะคอเลสเตอรอลเริ่มสูง พอดีว่าปีที่แล้วเห็นพี่ตูนวิ่งเพื่อหาเงินช่วยโรงพยาบาลบางสะพาน แต่ผมหาวันไปวิ่งไม่ได้ ปีนี้พี่ตูนออกมาวิ่งอีกครั้ง ประจวบกับที่ก้อย รัชวิน ไลน์มาชวนเพราะเคยร่วมงานกันตอนที่ทำ “หมู่” ของพี่โน้ส (อุดม แต้พานิช) แล้วครั้งนี้รู้สึกได้ว่ายิ่งใหญ่กว่าเดิม ผมก็อยากจะทำอะไรดีๆ แบบเขาบ้าง เลยตัดสินใจไปร่วมวิ่งกับพี่ตูน สิ่งแรกที่ได้ก็คือสุขภาพของเราที่จะแข็งแรงขึ้นจะได้ไม่ต้องไปเดือดร้อนหมออย่างที่พี่ตูนบอก สิ่งที่สองคือได้ซึมซับพลังงานดีๆ จากพี่ตูน เพราะเวลาเราอยากทำอะไรดีๆ หรืออยากเป็นแบบใครก็ให้ไปอยู่ใกล้ๆ เขาเพื่อจะได้เรียนรู้ ผมยอมรับเลยว่าหัวใจของพี่ตูนยิ่งใหญ่มาก ตอนนี้กำลังหาโอกาสจะไปวิ่งด้วยอีก ถ้าพี่ตูนมาแถวกรุงเทพฯ อาจจะไปแจมด้วย”

“ตอนที่ผมไปวิ่งระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ประมาณ 2 เซ็ต กลับมาแทบอยากจะตัดขาทิ้งเพราะมันไม่รู้สึกอะไรเลย ผมยังสงสัยว่าพี่ตูนวิ่งได้ยังไงเป็นพันๆ กิโลเมตร สุดยอดมาก แต่คือพี่ตูนฟิตร่างกายมาอย่างดีและแข็งแรง แต่ผมก็ต้องดูร่างกายตัวเองด้วยว่าวิ่งได้ประมาณไหน ระยะทาง 30 กิโลเมตร ถือว่าเลยขีดจำกัดของตัวเองมาสุดๆ แล้วเพราะวิ่งได้อย่างมากก็ 10 กิโลเมตร” สิงโตกล่าว

สำหรับบรรยากาศของคนที่มาให้กำลังใจตลอดสองข้างทาง นักร้องหนุ่มเล่าว่า “สนุกสนานมาก คนมารอเยอะไปหมด พี่ตูนก็ใจดีหยุดทักทายตลอด ก่อนไปวิ่งเวลาดูไลฟ์ผมก็จะมีความคิดว่าไม่อยากให้ใครเข้ามาหาพี่ตูนเลย จะได้วิ่งยาวๆ แต่พอถึงวันที่ตัวเองไปวิ่งด้วย บางทีก็ต้องขอบคุณคนที่มาทักทายพี่ตูน เพราะเวลาพี่ตูนหยุดทักทาย ผมก็จะได้หยุดด้วย(หัวเราะ) คือเวลาวิ่งเป็นทีมมันต้องไปพร้อมกันหมด เกิดว่าถ้าผมหยุดมันก็จะทิ้งช่วงกับคนอื่นไปเยอะ ในใจบางทีก็ภาวนาให้พี่ตูนปวดฉี่สักทีเถอะ หรือถ่ายหนักไปเลยก็ได้(หัวเราะ) แต่ทุกอย่างคือสนุก บรรยากาศมันดีกับใจ ได้เจอพี่น้องชาวไทยที่มารอบริจาค ทุกคนน่ารักมาก อีกอย่างชื่นชมทีมงานทีคอยเซฟพี่ตูนและคอยระมัดระวังคนที่จะเข้ามาแบบกะทันหัน ทำงานได้อย่างดีมาก ดูแลพี่ตูนไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ เพื่อจะได้วิ่งไปถึงจุดหมายคือเชียงรายครับ”

“สำหรับดราม่าต่างๆ ที่เกิดขึ้น ผมว่าไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะเรื่องนี้มันไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย พี่ตูนชอบวิ่งก็ไปวิ่ง นอกจากเขาวิ่งแล้วก็ยังได้ถ่ายทอดให้พวกเราเห็นว่าการวิ่งเป็นสิ่งที่ดี ทำให้ร่างกายแข็งแรง พอแข็งแรงก็ไม่ต้องไปเดือดร้อนหมอ หมอก็จะได้ไปช่วยคนที่เขาเดือดร้อนจริงๆ แล้วเงินที่ได้จากการบริจาคก็นำไปซื้ออุปกรณ์การแพทย์เพิ่มเติม เพื่อให้หมอมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยและจะได้ช่วยคนได้อีกเยอะแยะ ฉะนั้นอย่าไปคิดเยอะครับ” นักร้องหนุ่มกล่าว