6 ธ.ค. ลุ้นสตรีตฟู้ด “ข้าวมันไก่-อาหารไทย” ได้มิชลินสตาร์

นายกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า วันที่ 6 ธ.ค. 2560 มิชลิน เตรียมประกาศ มิชลิน สตาร์ หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณ 144 ล้านบาท เพื่อจัดทำ มิชลิน ไกด์ แนะนำร้านอาหารในไทย เพื่อดันไทยเมืองหลวงอาหารของเอเชีย โดย ไทยเป็นประเทศที่มีอาหารขึ้นชื่อ จากผลการสำรวจกว่า 86% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ อยากมากินอาหารไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงดึงมิชลินมาจัดทำไกด์บุ๊กเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ หวังเพิ่มสัดส่วนการใช้จ่ายหมวดอาหารเป็น 25% หรือ เพิ่มเป็น 7.5 แสนล้านบาทของรายได้ปี 2561 ซึ่งมีเป้ารายได้ทั้ง 3 ล้านล้านบาท จาก 5.4 แสนล้านบาท ในปี 2560 ของรายได้จากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติในปีนี้

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศลำดับที่ 29 ของโลกที่มีมิชลินไกด์ และเป็นลำดับ 6 ในเอเชีย และลำดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อจากสิงคโปร์ คาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยโปรโมตประชาสัมพันธ์ธุรกิจร้านอาหารของไทย ผลักดันให้ร้านอาหารในไทยมีรายได้และยอดขายสูงขึ้น และส่งผลดีไปยังเกษตรกรทั้งเรื่องราคาและคุณภาพ โดยจากการประเมินดีมานด์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ พบว่าชาวญี่ปุ่น ฮ่องกง และจีน ต่างตื่นตัวกันมากเรื่องที่จะมีมิชลินไกด์ในไทย

“ททท. ลุ้นว่าจะได้เห็นร้านอาหารแบบต้นตำรับไทยได้รับการยกย่อง ร้านอาหารแนวฟิวชั่นที่มีความเป็นไทยเจือเข้าไปด้วย รวมถึงมีร้านอาหารริมทาง (สตรีต ฟู้ด) เช่น อาหารแถวถนนเยาวราช และข้าวมันไก่ตอนประตูน้ำ ได้ดาวจากมิชลิน เป็นครั้งแรก เพราะไทยมีชื่อเสียงด้านสตรีตฟู้ด ติด 1 ใน 23 ของสตรีตฟู้ดที่ดีที่สุดในโลก หากสตรีตฟู้ดในกรุงเทพฯได้ดาวมิชลิน ก็จะช่วยยกระดับภาพรวมของสตรีตฟู้ดไทย ทั้งเรื่องคุณภาพ รสชาติ เอกลักษณ์ คุ้มค่าสมราคา และความเสมอต้นเสมอปลาย ซึ่งทางมิชลินจะมาประเมินทุกปี เป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการในไทยพัฒนาและรักษามาตรฐาน”

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ททท. ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงอาหารอย่างมาก วางเป้าหมายดันไทยเป็นเมืองหลวงอาหารของเอเชีย (Gastronomy Capital of Asia) ซึ่งปัจจุบันหลายๆ ประเทศมีความพยายามในการแข่งขัน เพื่อผลักดันตัวเองเป็นเมืองหลวงอาหาร เช่น คู่แข่งสำคัญอย่างญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่มีร้านได้ดาวจากมิชลินมากที่สุด รวมถึงอินโดนีเซีย และเวียดนาม ซึ่งอย่างตอนที่นายบารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดี เคยไปเยือนเวียดนามและกินเฝอ (ก๋วยเตี๋ยวเวียดนาม) จนมีภาพข่าวดังไปทั่วโลกมากแล้ว ดังนั้นไทยจึงต้องดันอาหารเป็นอาวุธด้านการท่องเที่ยว