ใต้วิกฤต! 13จังหวัดยังหนัก-โดนฝนถล่มอ่วม เหนือ-อีสานก็หนาวสะท้าน

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2560) ฉบับที่ 24 ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 ระบุว่า ในช่วงวันที่ 28 พ.ย. – 1 ธ.ค. 2560 หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเซียจะเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ ผ่านภาคใต้ตอนล่าง และทะเลอันดามัน

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่นอย่างต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนเตรียมการป้องกันและระวังอันตรายจากสภาวะอากาศดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

พื้นที่ที่คาดว่าได้รับผลกระทบมีดังนี้

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

ในช่วงวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 1 ธันวาคม 2560 บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนทะเลอันดามัน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง ส่วนประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก ขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาและหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิดในระยะนี้ และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 และสายด่วนนิรภัย 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ภาคเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก และมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์