ผู้เขียน | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
กรณีข่าวครึกโครมเมื่อ 2 นักแข่งรถชื่อดังประเทศไทย ร้องสื่อมวลชนว่าบุตรชาย คือ นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตในวันที่ 17 ต.ค. หลังกลับเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร เพียง 1 วัน และไม่ได้รับคำชี้แจงที่ละเอียดจากผู้เกี่ยวข้องของโรงเรียนเตรียมทหาร ได้รับเพียงใบมรณบัตรชี้แจงสาเหตุการตายจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน จึงข้องใจถึงสาเหตุการตาย ขณะที่ผลการชันสูตรชิ้นเนื้อจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ต้องใช้เวลานานถึง 2 เดือน นายพิเชษฐ ตัญกาญจน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาลูกไม่เคยบ่นหรือเล่าว่ามีปัญหากับใคร เพียงแต่รู้ว่าลูกมักถูกลงโทษและถูกเรียกไปซ่อมเดี่ยวอยู่บ่อยๆ แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ และก็เคยถูกลงโทษโดยรุ่นพี่ซึ่งเป็นหัวหน้าหมวด จนทำให้ชีพจรหยุดเต้นไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเท่าที่ทราบ รุ่นพี่นายนั้นก็ถูกปลดชั้นจากหัวหน้าหมวด แต่ก็ไม่เคยคิดว่าสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้จะมาจากเหตุการณ์ในครั้งก่อน จึงอยากทวงถามความกระจ่างจากทางโรงเรียนว่า สาเหตุที่แท้จริงคืออะไร ไม่ใช่เพียงคำบอกกล่าวที่ว่า เพราะลูกชายเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว
นางสุกัลยา ตัญกาญจน์ กล่าวว่า ในครั้งแรกที่ลูกชายถูกทำโทษอย่างรุนแรงด้วยการให้ปักหัวลงที่พื้นห้องน้ำนายทหาร จนเกิดอาการช็อกเพราะเลือดตกที่หัวและความดันพุ่งต่ำลง ซึ่งในรายละเอียดไม่ทราบว่า ถูกทำโทษเพราะเหตุใดและถูกทำโทษนานเท่าใด แต่เมื่อบุตรชายถูกปั๊มหัวใจจนมีชีพจรอีกครั้งก็ไม่ติดใจเอาความ แต่ในครั้งล่าสุดที่ลูกชายหัวใจหยุดเต้น ไม่มีผู้ใดชี้แจงถึงรายละเอียดและสาเหตุการเสียชีวิต
ล่าสุดครอบครัวก็ได้นำศพกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลทางศาสนา ที่วัดวิเวการาม ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า วันนั้นทางนายพิเชษฐ แอบนำศพลูกชายออกมา ก่อนที่จะมีการเผาศพ โดยไม่ได้บอกใครว่าไม่ได้เผาศพลูก เท่ากับพิธีวันนั้นเป็นการเผาหลอกไป ส่วนศพของ นายภคพงศ์ ทางนายพิเชษฐ ผู้เป็นพ่อ ได้นำศพไปชันสูตร ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ปรากฏว่า อวัยวะภายใน ทั้ง ตับ ไต ไส้ พุง หายไปหมด ซึ่งยิ่งทำให้เคลือบแคลงสงสัย
ต่อมา เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 20 พ.ย. นายพิเชษฐ และ นางสุกัลยา พร้อมด้วย น.ส.สุพิชชา ตัญกาญจน์ ลูกสาวคนโต ได้แถลงข่าวถึงกรณีนี้ โดย น.ส.สุพิชชา ระบุว่า จากการชันสูตรพบว่า อวัยวะภายใน ทั้ง ตับ ไต ไส้ พุง หายไปหมด ส่วนที่กะโหลกศีรษะ มีกระดาษทิชชู่ยัดไว้ แต่สมองหายไป นอกจากนี้ยังตรวจพบกระดูกซี่โครงซี่ที่ 4 หัก และมีรอยช้ำภายในช่องท้องด้านขวาขนาดเท่ากำปั้น และส่วนด้านหลังภายในซีกซ้ายมีรอยช้ำ และที่ไหปลาร้าหักทั้ง 2 ข้าง ซึ่งแพทย์ที่ชันสูตรระบุว่า ซี่โครงที่หักไม่น่าจะเกิดจากการปั๊มหัวใจ เพราะหักต้องหักทั้งแถบ และรอยช้ำน่าจะเกิดจากการถูกกระแทกอย่างแรง
นอกจากนี้ ทางครอบครัวตัญกาญจน์ ยังนำคลิปเสียงที่อ้างว่าได้พูดคุยกับผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร หลังจาก รู้ว่าอวัยวะหายไป มาเปิดให้สื่อมวลชนฟังด้วย และหลังจากการแถลงข่าวทางครอบครัวกล่าวว่า อยากได้คำชี้แจงว่า อวัยวะลูกชายหายไป เกิดจากสาเหตุอะไร และชิ้นส่วนอวัยวะที่หายไป ก็อยากจะขอคืน เพื่อนำมาพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง
cr.ทุบโต๊ะข่าว
ที่มา ข่าวสดออนไลน์