ผู้เขียน | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
วันที่ 16 พ.ย. ที่สน.คันนายาว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มผู้เสียหายจากการระดมทุนของเครือข่าย นายชำนาญ หรือดอน เพ็ชรศรี อดีตการ์ดคนสนิทของนายจตุพร พรหมพันธุ์ พร้อมนางอภิญญา หรือโอ๊ะ เพ็ชรศรี ภรรยา ที่ร่วมกันตั้งกลุ่มเพื่อระดมทุน ฉ้อโกงประชาชนรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
น.ส.ฐปนกุล หู้เต็ม อายุ 42 ปี หัวหน้ากลุ่มผู้เสียหาย เปิดเผยว่า กลุ่มการระดมทุนนี้เปิดผ่านเพจทางเฟซบุ๊ก ชื่อว่า “บ้านออมเงินเบิกบานใจ” เป็นกลุ่มปิด เปิดเพจมา 6 เดือน มีสมาชิกทั้งหมด 876 คน โดยอ้างว่าตั้งเป็นกลุ่มเพื่ออยากช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อย ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น แบ่งเป็นกลุ่ม 200 กลุ่ม กลุ่มละประมาณ 10 กว่าคน ตนรู้จักกลุ่มนี้ผ่านทางเพื่อนในเฟซบุ๊ก บอกว่าหากมาลงทุนจะได้ผลตอบแทนดีมาก
น.ส.ฐปนกุล กล่าวต่อว่า นายชำนาญจะไลฟ์สด หรือโพสต์ข้อความเพื่อให้น่าเชื่อถือของกลุ่ม โดยอ้างว่ามีธุรกิจน้ำตาล และข้าว จนมีผู้หลงนำเงินมาลงทุนจำนวนมาก ซึ่งทุกคนที่เข้ามาลงทุนต่างคาดหวังว่าจะได้ผลตอบแทนในเวลาต่อมา แต่หลังจากนั้นกลับไม่ให้ผลตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งตนร่วมลงทุนไปทั้งหมด 6 หมื่นบาท และได้ผลตอบแทนกลับแค่ 1 เดือน ส่วนรายอื่นก็ได้รับความเสียหายแตกต่างกันไป
น.ส.ฐปนกุล กล่าวต่ออีกว่า ช่วงที่ยังไม่ได้รับผลตอบแทน นายชำนาญจะอ้างว่ามีเงินเข้าแบงก์ชาติแล้ว ให้พวกเรารอก่อน พอผ่านไป 7 วัน ก็อ้างว่าเงินเข้ามาที่ธนาคารกสิกรแล้ว อยู่ในขั้นตอนดำเนินการเซ็นรับเงิน ตอนนี้ก็รอมาแล้วกว่า 2 เดือน หลังจากที่รู้ตัวว่าถูกหลอกก็ติดต่อผ่านทางเพจทั้งอินบ็อกซ์ และโพสต์ที่หน้าเพจ ซึ่งช่วงแรกๆ ก็มีการตอบกลับบ้างแต่ต่อมาก็เงียบหายไป
“ส่วนตัวก็รู้ว่านายชำนาญเป็นการ์ดนปช. ก็เชื่อว่าคนอุดมการณ์เดียวกันไม่น่าจะหลอกลวงกับแบบนี้ ในวันนี้มาเพื่อจะแจ้งความกับนายชำนาญ ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน” น.ส.ฐปนกุล กล่าว
ด้านนายเพิ่มผล ด้วนแสง อายุ 39 ปี หนึ่งในกลุ่มผู้เสียหายเปิดเผยว่า กลุ่มนี้มี ตุ๊กตา สกาวรัตน์ เป็นเลขาฯ ซึ่งเป็นคนดึงผู้ใช้เฟซบุ๊กตามที่ต่างๆ เข้ามาในกลุ่มหรือบ้าน ที่มีนายชำนาญเป็นหัวหน้ากลุ่ม จากนั้นพอคนเข้ามาในกลุ่มก็จะชักชวนร่วมลงทุน ต่อมาก็จะให้โอนเงินมาที่แม่และพี่เขยของนางอภิญญา ภรรยานายชำนาญ โดยตนลงทุนไป 4 หมื่นบาท ซึ่งยังไม่ได้ผลตอบแทนกลับคืนแม้แต่บาทเดียว
ขณะที่ พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้เสียหาย ยืนยันได้ว่ากรณีนี้ไม่ได้เป็นการเล่นแชร์ลูกโซ่ แต่เป็นการหลอกลวงระดมทุนเพื่อลงทุนธุรกิจบางอย่าง ซึ่งความผิดในลักษณะนี้เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพื้นที่ที่ผู้ชักชวนไลฟ์สดนั้น เป็นเขตพื้นที่ของสน.นิมิตรใหม่ จึงอยากแนะนำให้ไปแจ้งความดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปราม เนื่องจากว่ามีการกระทำความผิดในหลายพื้นที่ พร้อมทั้งยังมีผู้เสียหาย และมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามจะมีอำนาจในการสอบสวนมากกว่า
ที่มา ข่าวสดออนไลน์