ร้องนายกฯ ใช้ยาเเรงแก้ปัญหา “ลอตเตอรี่” เเพงคืนชีพ หลังสำรวจพบขายเกินราคาพุ่ง 130 บาท

เครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลากกินแบ่งรัฐบาล ยื่นหนังสือร้องนายกรัฐมนตรี เร่งออกมาตรการแก้ไขปัญหาขายสลากเเพง ระบุผลสำรวจ 28 พื้นที่พบขายสลากเกินราคา 80 บาทกว่า 89.9%

14 พ.ย.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายราเมศร ศรีทับทิม ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วยเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เร่งรัดออกมาตรการเด็ดขาดแก้ไขปัญหาสลากแพง พร้อมแนบแผ่นซีดีเผยวิดีโอการล่อซื้อสลากแพงส่งถึงนายกรัฐมนตรีด้วย

โดยทางกลุ่มได้เสนอข้อมูลจากการซักถามพ่อค้าแม่ค้าที่ถูกจับกุม เปิดเผยว่าได้รับซื้อสลากมาในราคาใบละมากกว่า 80 บาท หรือเล่มในราคาเฉลี่ย 81-85 บาท จึงทำให้มีความจำเป็นขายใบละ 90 บาท ขณะเดียวกันผู้ค้าบางส่วนอ้างว่าไม่ได้รับโควตาจากกองสลาก เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์เพราะไม่มีเงินในบัญชีเพียงพอ

จากการลงพื้นที่สำรวจการขายสลากในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ระหว่างวันที่ 4–12 พ.ย.ใน 28 พื้นที่ เช่น สี่แยกคอกวัว ตลาดมีนบุรี ตลาดบางใหญ่ ตลาดรังสิต ตลาดนัดจตุจักร ปากเกร็ด นนทบุรี บางกะปิ บางนา ปิ่นเกล้า เป็นต้น พบผู้ขายสลากทั้งหมด 328 ราย มีทั้งเร่ขายและแผงประจำ โดยพบว่ามีการขายเกินราคาจำนวน 295 ราย คิดเป็น 89.9% จากจำนวนทั้งหมด และยังพบสลากใบเดี่ยวราคาแพงสุดอยู่ที่ใบละ 130 บาท

ส่วนการรวมชุดแพงสุด คือ ชุด 15 ใบ ราคา 2,500 บาท เฉลี่ยราคาใบละ 167 บาท สลากที่ขายเกินราคาส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบการรวมชุด เกือบทุกร้านมีป้ายราคาขาย 80 บาท แต่พอขายจริงกลับขายเกินราคาทั้งเร่ขายและแผงประจำ

ทั้งนี้ ทางเครือข่ายฯ ตั้งข้อสังเกตถึงกรณีที่สำนักงานสลากกินแบ่ง ระบุว่าไม่พบการขายสลากเกินราคาก่อนหน้านี้ ทางเครือข่ายฯ ต้องการทราบว่ามีการสำรวจในพื้นที่ใด พร้อมให้กำลังใจรัฐบาลในการเดินหน้าแก้ไขปัญหา เนื่องจากปัญหาดังกล่าวสะท้อนถึงการยอมรับค่านิยมการโกง

สำหรับข้อเสนอเเนะ เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน และเครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลาก ขอแสดงจุดยืนและมีข้อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อนำไปพิจารณา ดังนี้

1.เครือข่ายฯ ขอให้กำลังใจรัฐบาลในการเดินหน้าแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมายาวนาน และยังไม่มีรัฐบาลใดแก้ไขได้ ทั้งที่เป็นสินค้าของรัฐบาล ที่สำคัญปัญหานี้สะท้อนเรื่องการยอมรับค่านิยมการโกง หากปล่อยไว้จะเป็นเชื้อร้ายฝังรากลึกในสังคม ทำให้เด็กและเยาวชนยอมรับการโกงว่าเป็นเรื่องปกติซึ่งอันตรายยิ่ง

2.ขอให้พิจารณามาตรการขั้นสูงสุด แก้ปัญหาให้เบ็ดเสร็จ ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาล ปิดทางพ่อค้าคนกลางและระบบที่เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มคนบางกลุ่มที่เป็นเสือนอนกิน เครือข่ายฯ เชื่อว่าผู้ค้ารายย่อยเป็นเพียงปลายทางของระบบที่ฉ้อฉล เป็นแพะรับบาป ท่ามกลางการกอบโกยของคนบางกลุ่มที่ทรงอิทธิพล

3.ขอเรียกร้องให้ใช้กลไกของภาครัฐในการรณรงค์ให้ประชาชนรักษาสิทธิของผู้บริโภค ไม่สนับสนุนสลากเกินราคาทุกรูปแบบ เพราะเท่ากับการสนับสนุนการโกง ยอมรับการทุจริตคอร์รัปชั่น

4.เครือข่ายฯ ขอให้มีการกำหนดบทลงโทษกับกลุ่มคนกลาง พ่อค้าคนกลาง หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้สลากแพงทั้งระบบ รวมถึงการกำหนดมาตรการอื่นๆ ในการแก้ปัญหาราคาสลากแพง ไว้ให้ชัดเจนในพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุง

 

ที่ีมา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์