ที่มา | ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
หากนึกถึงเเอพพลิเคชั่นที่คอยบอกเส้นทาง ระบุจุดพัก ถนนในการปั่นจักรยาน เเอพพลิเคชั่น “ปั่นเมือง” เเอพรายงานปัญหาการสัญจร จัดทำโดยมูลนิธิโลกสีเขียว มีขึ้นเพื่อให้ประชาชนที่ปั่นจักรยานสามารถใช้บริการค้นหาและเเชร์เส้นทางการปั่นจักรยาน ร้านซ่อม จุดจอดรถที่ระบุสิ่งกีดขวางและร้านคาเฟ่ไว้บนเเผนที่ได้ อีกทั้งประชาชนสามารถรายงานอุปสรรคที่เจอบนท้องถนนผ่านเเอพพลิเคชั่นได้อีกด้วย
จึงเป็นที่มาของโครงการ “สะพานปันฝันเเซนเเญป” ที่มีผู้รายงานปัญหาผ่านเเอพพลิเคชั่น “ปั่นเมือง” ว่า สะพานคนเดินข้ามท่อระบายน้ำสถานีสูบน้ำพร้อมศรี 2 บริเวณริมคลองเเสนเเสบ มีสภาพชำรุด ผุพัง ไม่ปลอดภัยต่อการเดินสัญจร เเละเป็นอุปสรรคต่อการใช้จักรยาน ด้วยลักษณะที่เเคบ เอียง ลื่นเเละชัน มูลนิธิโลกสีเขียวจึงประสานไปยังกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ซ่อมเเซมอย่างเร่งด่วน เเต่สำนักการระบายน้ำผู้รับผิดชอบในพื้นที่ขาดเเคลนงบประมาณ จึงไม่สามารถซ่อมบำรุงได้
สะพานเเซนเเญป มาจากภาษามลายู เเปลว่าเงียบสงบ มีความสำคัญต่อชุมชนคือเป็นเส้นทางหลักของชาวริมคลองเเละนักเรียนในพื้นที่ เเอพปั่นเมืองเล็งเห็นว่าต้องรีบปรับปรุงอย่างเร่งด่วน โดย มูลนิธิโลกสีเขียว มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม เเละชุมชนสุเหร่าบ้านดอน จึงร่วมกันระดมเงินทุนบริจาคของประชาชนปรับปรุงซ่อมเเซมสะพานให้เกิดความปลอดภัย
“สะพานที่สร้างใหม่นี้ จะช่วยตอบโจทย์การใช้งานได้มากขึ้น อำนวยความสะดวกให้เเก่ประชาชน เราถามประชาชนทั้งก่อนเเละหลังซ่อมแซม เพื่อดูว่าชาวบ้านรู้สึกอย่างไร ซึ่งสะพานนี้จะสร้างประโยชน์ให้เเก่ชาวบ้าน ด้วยการดีไซน์ด้านหนึ่งเป็นทางราบ เเละอีกด้านเป็นบันได จะช่วยให้เข็นจักรยาน-เดินสะดวกยิ่งขึ้น”
ปัจจุบันมีผู้ใช้งานสะพานเเซนเเญปต่อวันอยู่ที่ 200-300 คน เเละมีคนใช้จักรยานกว่า 20-30% ได้ ซึ่งสะพานเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์เชื่อมกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ตั้งเเต่หนองจอก, มหาวิทยาลัยรามคำแหง, เข้าสู่ใจกลางเมืองย่านอโศกอีกด้วย
ใช่ว่าการสร้างจะราบรื่น…กฎข้อห้ามในการสร้างสะพานเเซนเเญปที่ว่า “เส้นทางนี้ไม่ให้มอเตอร์ไซค์ขี่ผ่าน” โดยคนในชุมชนเห็นด้วยกับข้อห้ามนี้ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องของเสียง อุบัติเหตุ การลักขโมย
พี่ซัน แอดมินเเอพพลิเคชั่นปั่นเมือง เล่าว่า ต้องระดมความคิดเห็นกันอย่างมาก เพื่อออกเเบบเเนวกั้นสะพานไม่ให้มอเตอร์ไซค์ขี่ผ่านได้ ลงเอยกันด้วยการทำประตูกั้นเเละล็อกกุญเเจเอาไว้ เมื่อใครจะใช้งานสามารถไปขอกุญเเจจากคนในชุมชน ซึ่งเป็นคนที่รู้จักเเละคุ้นเคยกันดี
เมื่อถามต่อว่า การกั้นประตูไม่ให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านนั้นมีปัญหาขัดเเย้งหรือไม่…พี่ซันเล่าให้ฟังว่า ประชาชนเเถวนี้รับรู้เเละเข้าใจถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหากปล่อยให้มอเตอร์ไซค์ขี่ผ่าน โดยมีการลงไปทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดี
ด้าน พี่อ๋อง-ระดับ กาญจนะวณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทวิศวกรที่ปรึกษา RKV จำกัด เล่าให้เราฟัง ในส่วนของการออกเเบบเเละก่อสร้างสะพานเเซนเเญปว่า เดิมทีตั้งใจออกเเบบสะพานให้โค้งที่ใช้งบประมาณถูกลง เเละคิดว่าจะสวยกว่านี้มาก เเต่เนื่องจากติดขัดในเรื่องของการคงสภาพเเบบเดิมไว้ จึงออกเเบบให้กว้างขึ้น เพื่อใช้เข็นจักรยานได้ เพราะเมื่อก่อนเป็นเพียงสะพานคนเดินข้ามเท่านั้น
“เราใช้เเบบเดิมของสะพานที่มี เเละขยายเลนให้กว้างขึ้น ทำเป็นเลนจักรยานเเละเลนคนเดินเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน”
พี่อ๋อง เล่าต่อว่า ส่วนตัวใช้เวลาออกเเบบสะพาน 2 วัน ใช้เวลาปรับปรุงสะพานทั้งสิ้นราว 1 เดือน ในส่วนของโครงสร้าง รูปแบบทุกอย่างเหมือนเดิมเเต่ทำให้กว้างขึ้น ระยะความกว้างสะพานเป็น 1.8 เมตร เฉพาะทางลาดกว้าง 80 เซนติเมตร ราวจับบันไดสูง 90 เซนติเมตรตามขนาดเดิม พร้อมทั้งทำเสาหลักเเละรั้วกั้นมอเตอร์ไซค์สูง 40 เซนติเมตรบริเวณกลางสะพาน ออกเเบบเหล็กให้เล็กลง ใช้เหล็กฉีก ด้วยความที่น้ำหนักเบา น้ำไม่ขัง ทำให้ทนต่อการใช้งาน ไม่เป็นสนิมเร็ว
ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สามารถสร้างประโยชน์ให้เเก่ชุมชน ประชาชน อย่างมาก เเละยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ ลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากการใช้งานสะพานเก่า เพิ่มความปลอดภัยให้เเก่ชีวิต…เเม้จะเป็นเพียงการเเก้ไขในจุดเล็กๆ แต่ก็เป็นอีกก้าวที่ทำให้เห็นภาพของการร่วมเเรง ร่วมใจ ในการพัฒนา อย่างไรก็ตาม ทางมูลนิธิโลกสีเขียวคาดหวังว่าจะได้เข้าไปพัฒนาในพื้นที่อื่นๆ ด้วยเช่นกัน
นอกจากความปลอดภัยที่ประชาชนได้รับเเล้ว…ยังเห็นว่า “รอยยิ้มของพวกเขานั้น…กว้างขึ้น” เช่นกัน