แบงก์ออมสินดิ้นแก้หนี้ครู ออกโครงการพักหนี้ 3 ปีจ่ายแค่ดอกเบี้ย คืนเงิน 0.5-1% หากชำระดี 1 ปี

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ออมสินทำข้อตกลงใหม่หนี้ครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยจะยกเลิกข้อตกลงทำไว้กับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) โดยธนาคารมีความเห็นร่วมกันกับกระทรวงศึกษาธิการ จะทำบันทึกข้อตกลงใหม่ร่วมกัน ให้หน่วยงานต้นสังกัดครู ได้แก่ สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ให้ความร่วมมือในการนำส่งชำระหนี้ให้ธนาคารเอง ดังนั้นธนาคารต้องยกเลิก เงื่อนไขการจ่ายเงินค่าตอบแทนให้กับ สกสค. 0.5-1% โดยเปลี่ยนมาคืนให้กับครู ที่มีประชุมการชำระเงินที่ดีติดต่อกัน 12 งวดแทน

“ก่อนหน้านี้ สกสค.ร่วมกับธนาคารออมสินในโครงการจัดหาสวัสดิการด้านสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ และทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับธนาคารออมสินเพื่อดำเนินโครงการสวัสดิการเงินกู้ โดยนำเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) มาค้ำประกันไม่น้อยกว่า 7 โครงการ ซึ่ง สกสค.รับเงินในอัตรา 0.5-1% แยกตามแต่ละโครงการ คิดเป็นเงินกว่า 200 ล้านบาทต่อเดือน หรือ 2,500 ล้านบาทต่อปี แต่เงินดังกล่าวมีข้อแม้คือถ้าครูไม่ชำระหนี้ธนาคารต้องหักเงินดังกล่าว” นายชาติชาย กล่าว

นายชาติชาย กล่าวว่า หากครูไม่ประสงค์จะนำเงินช.พ.ค. มาเป็นหลักประกัน สามารถนำหลักทรัพย์ เช่น โฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 700,000 บาท มาค้ำประกันแทนก็ได้ คาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 โดยหนี้ครูยังค้างอยู่กับธนาคารออมสินอยู่ที่ 4.25 แสนล้านบาท มีจำนวน 4.75 แสนบัญชี(ราย) โดยมีหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) ที่ 1.25% คิดเป็นเงิน 5,432 ล้านบาท จำนวน 9,250 ราย โดยอยู่ในกระบวนการฟ้องร้องต่อศาลประมาณ 2,000 ราย วงเงินกว่า 2,000 ล้านบาท

นายชาติชาย กล่าวว่า นอกจากนี้ ออมสินเปิดให้ครูเข้ามาปรับโครงสร้างหนี้พักหนี้เงินต้นเป็นเวลา 3 ปี ส่วนดอกเบี้ยนั้นจ่าย 3 แนวทางคือ 1. กรณีรายได้คงเหลือหลังหักค่าใช้จ่ายมากกว่า 30% ของรายได้ ชำระดอกเบี้ยปกติ 100% 2. กรณีรายได้คงเหลือหลังหักค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 15-30% ของรายได้ ชำระดอกเบี้ยปกติไม่น้อยกว่า 50% 3. กรณีรายได้คงเหลือหลังหักค่าใช้จ่ายน้อยกว่า 15% ของรายได้ ชำระดอกเบี้ยปกติไม่น้อยกว่า 25% หากเคยชำระหนี้ 5,000 บาทต่อเดือน ในจำนวนนี้เป็นดอกเบี้ย 2,500 บาท ถ้าใช้แนวทางที่ 1 ชำระหนี้เพียง 2,500 บาท แนวทางที่ 2 ชำระ 1,250 บาท ถ้าแนวทางที่ 3 ชำระ 625 บาท

นายชาติชาย กล่าวว่า ครูที่ต้องการปรับโครงสร้างหนี้สามารถมาหารือกับออมสินได้ตั้งแต่วันนี้ ธนาคารคาดว่าจะมีครูเข้าร่วมโครงการประมาณ 50,000 ราย เมื่อปรับโครงสร้างหนี้สามารถชำระเงินงวดได้ตามสัญญาเป็นเวลา 12 เดือนติดต่อกัน ธนาคารออมสินจะจัดสรรเงินเฉลี่ยคืน (Cash Back) ให้ตามอัตราที่กำหนด ส่วนครูที่ สกสค. เคยชำระหนี้แทนแล้วไม่เข้าโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ธนาคารจะฟ้องคดีตามกฎหมายต่อไป