ผู้เขียน | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
กอร.พระราชพิธีฯแจงข้อควรปฏิบัติ-ข้อห้ามงานพระราชพิธี ประชาชนพกร่ม พัด หมวก แว่นตากันแดด เพื่อกันฝนได้ อนุญาตใช้กล้องมือถือถ่ายภาพ แต่ห้ามถ่ายในเขตราชวัติ เมื่อริ้วขบวนพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินผ่าน ควรอยู่ในอาการสำรวม งดเปล่งเสียงถวายพระพร “ทรงพระเจริญ” ด้าน มท.เผยพระเมรุมาศจำลองเสร็จครบทุกจังหวัดแล้ว
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 ต.ค. ที่ศูนย์สื่อมวลชนงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กองอำนวยการร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (กอร.พระราชพิธีฯ) ประกอบด้วยตัวแทนจากกรมศิลปากร กระทรวงมหาดไทยและกรมประชาสัมพันธ์ จัดแถลงข่าวเรื่อง “คติ ความเชื่อ การจัดสร้าง และประติมากรรมประกอบพระเมรุมาศ แนวปฏิบัติงานพระราชพิธีฯ ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและจิตอาสาในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ”
นายก่อเกียรติ ทองผุด นายช่างศิลปกรรมอาวุโส สำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร กล่าวถึงความเชื่อในการจัดสร้างศิลปกรรมประกอบการจัดสร้างประติมากรรมประดับพระเมรุมาศของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า ในครั้งนี้มีการสร้างประติมากรรมกว่า 800 ชิ้น สื่อถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 มากที่สุด ออกแบบโดยยึดตามแบบโบราณราชประเพณี เช่น การออกแบบพระเมรุมาศจะสื่อถึงเขาพระสุเมรุ เพื่อสื่อถึงความเป็นสรวงสวรรค์ มีเทพเทวดาทั้งแบบยืนและแบบนั่งรอบพระเมรุมาศ ถือเป็นการถวายพระเกียรติยศอย่างสูงสุดให้กับพระองค์ หรือการจัดสร้างสระอโนดาตประกอบพระเมรุมาศ ก็จะมีความหมายที่เกี่ยวข้องกับโครงการในพระราชดำริด้านการบริหารจัดการน้ำ เป็นต้น
ด้าน นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการดำเนินงานพระราชพิธีส่วนกลางและส่วนภูมิภาคว่า ขณะนี้การดำเนินการก่อสร้างพระเมรุมาศจำลองในทุกจังหวัดทั่วประเทศ 76 แห่งดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ทุกแห่งแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนของการดำเนินการจัดสร้างซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ จำนวน 802 แห่ง แบ่งเป็นซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ขนาดกลาง จำนวน 649 แห่ง ซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ขนาดเล็ก จำนวน 153 แห่ง ซึ่งกระจายอยู่ทุกอำเภอดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกัน
ในส่วนของการก่อสร้างสถานที่เผาดอกไม้จันทน์หรือพระจิตกาธานของประชาชนในส่วนภูมิภาค ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองจะรับผิดชอบในส่วนของจังหวัด ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระเมรุมาศจำลอง จำนวน 76 แห่ง ส่วนกรมการปกครองจะรับผิดชอบในส่วนของอำเภอที่มิได้เป็นที่ตั้งของพระเมรุมาศจำลอง โดยจะดำเนินการจัดสร้างพระจิตกาธานตามแบบแปลนของทางกรมโยธาธิการฯ จำนวน 802 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจุดก่อสร้างพระจิตกาธานจะอยู่ห่างจากซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ 20-30 ม. โดยในส่วนการก่อสร้างของจังหวัด 76 แห่งคืบหน้าแล้วร้อยละ 90 มีกำหนดเสร็จภายในวันที่ 20 ต.ค. ในส่วนของอำเภอ 802 แห่ง คืบหน้าแล้วร้อยละ 72.65 กำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 22 ต.ค.
นายวิบูลย์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของทุกจังหวัดได้จัดตั้งกองอำนวยการร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ จังหวัด โดยมีผู้ว่าฯ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ระดับจังหวัดและระดับอำเภอมีนายอำเภอเป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ มีองค์ประกอบจากส่วนราชการต่างๆ ในพื้นที่เพื่อประสานงานด้านการรักษาความปลอดภัย และการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ในส่วนของไฟหลวงพระราชทานไปในพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ณ พระเมรุมาศจำลองนั้น ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดจะดำเนินการจัดพิธีรับไฟหลวงพระราชทานให้แก่อำเภอในจังหวัดภายในวันที่ 24 ต.ค. ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่เหมาะสมทุกจังหวัดต่อไป
สำหรับการใช้โดรนในส่วนภูมิภาคให้เป็นไปตามแนวทางของ กอร.พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร กำหนด โดยกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยรวบรวมการแจ้งครอบครองโดรน รวมทั้งการอนุญาตใช้ในพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ โดยจะเสนอให้กอร.พระราชพิธีฯทราบ เพื่อกำกับดูแลความเป็นเอกภาพจัดระเบียบให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งการขออนุญาตใช้โดรนจะต้องเป็นโดรนของหน่วยงานราชการเท่านั้น
นางเสาวรีย์ อัมภสุวรรณ์ ผอ.กลุ่มพัฒนาระบบบริหารกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวถึงข้อควรปฏิบัติและข้อห้ามในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ว่า
สำหรับข้อควรปฏิบัติในการเข้าร่วมพระราชพิธี ประชาชนจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนกับเจ้าหน้าที่เมื่อเดินเท้าผ่านจุดคัดกรอง และจะต้องพกพาบัตรประจำตัวประชาชนติดตัวไว้ตลอดเวลา เมื่อเดินผ่านจุดคัดกรองแล้วประชาชนสามารถจับจองพื้นที่บริเวณทางเท้าริมถ.มหาราช ถ.สนามไชย ยาวไปจนถึงศาลหลักเมืองเฉพาะฝั่งตรงข้ามพระบรมมหาราชวังเท่านั้น ต้องอยู่ในอาการสุภาพเรียบร้อย น้อมถวายความอาลัยด้วยอาการสงบสำรวม เมื่อริ้วขบวนซึ่งประกอบด้วยพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จพระราชดำเนินในริ้วขบวนผ่าน จิตอาสาต้องถอดหมวกและก้มกราบ
สำหรับเครื่องแต่งกายในการเข้าร่วมพระราชพิธีฯ สุภาพบุรุษต้องสวมใส่เสื้อดำ เชิ้ตดำ กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าสุภาพหุ้มส้นสีดำ ส่วนสุภาพสตรีให้สวมใส่เสื้อดำ กระโปรงยาวสีดำคลุมเข่าหรือกางเกงขายาวสีดำ รองเท้าสุภาพหุ้มส้นสีดำ ส่วนจิตอาสาแต่งชุดจิตอาสาพระราชทาน เสื้อสีดำ สวมหมวก ผ้าพันคอกางเกงหรือกระโปรงสีดำเท่านั้น สามารถสวมรองเท้าผ้าใบได้ ทั้งนี้ ตามความเหมาะสมกับการปฏิบัติหน้าที่
นางเสาวรีย์ กล่าวต่อว่า ประชาชนสามารถนำร่ม พัดหมวก แว่นตากันแดดเพื่อกันฝนและแดดได้ โดยควรเป็นสีดำหรือโทนสีสุภาพ เมื่อริ้วขบวนซึ่งประกอบด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินในริ้วขบวนผ่าน ต้องเก็บร่ม พัด หมวก แว่นตากันแดดและถวายความเคารพ สามารถถ่ายภาพโดยใช้กล้องธรรมดาและกล้องโทรศัพท์มือถือได้ แต่ห้ามถ่ายภาพในเขตราชวัติ ขอให้พกเฉพาะสิ่งของจำเป็นเท่านั้น ทั้งอาหาร น้ำดื่ม ยาประจำตัว และเตรียมความพร้อมของร่างกาย ในส่วนของเด็กและผู้สูงอายุควรเขียนชื่อที่อยู่เบอร์โทรศัพท์ของครอบครัวติดตัวไว้ด้วย
นางเสาวรีย์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ขอความร่วมมืองดพกพาอาวุธ วัตถุโลหะ ที่อาจเป็นอันตรายเข้าในพื้นที่เด็ดขาด งดสวมใส่ยีนส์ เสื้อผ้ารัดรูป เสื้อแขนกุด เสื้อสายเดี่ยว งดเปล่งเสียงถวายพระพร “ทรงพระเจริญ” งดแสดงอาการหยอกล้อ ควรอยู่ในอาการสำรวม งดถ่ายภาพโดยกล้องเลนส์ซูมและงดใช้ขาตั้งกล้อง ที่สำคัญกรุณาอย่าออกนอกพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ ไม่วิ่งตัดหน้าหรือกีดขวางทางริ้วขบวน
ทีี่มา ข่าวสดออนไลน์