‘ฉัตรชัย’ สั่งตั้งทีมดูแลราคา-ผลผลิตสินค้าเกษตร รับมือในอีก 3-6 เดือน

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ แสดงความกังวลต่อราคาสินค้าเกษตรและผลผลิตในอีก 3-6 เดือนข้างหน้า สั่งให้ตั้งทีมงานดูแลรายสินค้า แม้ที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยใช้ตลาดนำการผลิตหรือผลิตตามตลาดต้องการ รวมทั้งแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม และส่งเสริมระบบตลาดออนไลน์ และได้มีมาตรการรักษาเสถียรภาพราคา เพื่อแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ แต่ราคาสินค้าเกษตรขึ้นอยู่กับกลไกตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ บางสินค้ายังพึ่งพาตลาดส่งออกหลักเพียงตลาดเดียว อีกทั้งยังขึ้นกับตลาดล่วงหน้าต่างประเทศ เช่น ยางพารา เป็นต้น

ทั้งนี้ พล.อ. ฉัตรชัย สั่งการให้ สศก. ประมาณการผลผลิตด้านการเกษตร 16 ชนิดในอีก 3-6 เดือนข้างหน้า ได้แก่ ข้าวนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลังโรงงาน สับปะรดโรงงาน ปาล์มน้ำมัน ยางแห้ง ลำไย ทุเรียน มังคุด กุ้งทะเลเพาะเลี้ยง ปลานิล ไก่เนื้อ สุกร ไข่ไก่ น้ำนม และโคเนื้อ แล้วประสานไปยังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อร่วมกันหามาตรการรองรับผลผลิตที่จะออกมา ที่อาจส่งผลกระทบทำให้ผลผลิตล้นตลาด และราคาที่เกษตรกรขายได้ตกต่ำ

นอกจากนี้ รมว.เกษตรฯ แสดงความกังวลในสินค้าเกษตรหลายตัวที่ผลผลิตน้อย แต่ราคายังตกต่ำต่อเนื่อง เพราะหากผลผลิตออกมามาก ราคาตกต่ำ ถือเป็นสถานการณ์ปกติ จึงสั่งการให้ สศก. นำข้อมูลผลผลิตวิเคราะห์เชิงลึกหาเหตุผลที่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงให้มากขึ้น และแนวทางการบริหารจัดการสินค้า ส่วนใหญ่ยังเป็นแบบตั้งรับ จึงสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการของกระทรวงเกษตรฯ ขึ้นมาดูแลแต่ละรายสินค้า เพื่อร่วมกับคณะกรรมการนโยบายแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตร ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกกระทรวงเกษตรฯ เพื่อร่วมกำหนดแนวทางแก้ปัญหาแบบเชิงรุก

สำหรับ สินค้าหลายตัวที่คาดว่าจากนี้ต่อไปจะมีสถานการณ์ดีขึ้น อาทิ ปาล์มน้ำมัน รัฐบาลได้หาแนวทางในการสนับสนุนเพื่อให้ผู้ประกอบการส่งออกได้มากขึ้นในการลดปัญหา สต๊อก เพื่อรองรับผลผลิตที่จะออกตลาดมากขึ้นในช่วงปลายปี โดยในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. ได้ส่งออกแล้ว 52,629 ตัน และคาดว่าส่งออกทั้งปีจะได้มากกว่า 100,000 ตัน จะส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรขายได้ขยับตัวสูงขึ้น เฉลี่ยปี 2560 กิโลกรัมละ 4.20 บาท, มันสำปะหลัง ครม. มีมติเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2560 อนุมัติในหลักการแนวทางการบริหารจัดการมันสำปะหลังปี 2560/61 จำนวน 14 โครงการ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ภาคการเกษตร ในการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ลดต้นทุนการผลิต และแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า

รวมถึงมีการดูแลด้านการตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีแนวทางบริหารจัดการการนำเข้าวัตถุดิบอื่นทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และได้ประสานให้สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยรับซื้อจากเกษตรกรไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 8.00 บาท ที่ความชื้น 14.5% (ราคา ณ กรุงเทพฯ และปริมณฑล) รวมทั้ง ครม. มีมติเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2560 อนุมัติการดำเนินโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้งหลังนา ปี 2560/61 เป้าหมาย 31 จังหวัด พื้นที่ 0.7 ล้านไร่ เกษตรกร 47,000 ราย เพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้เพียงพอกับความต้องการใช้ภายในประเทศ และกระจายผลผลิตให้ออกสู่ตลาดสม่ำเสมอ ไม่กระจุกตัว