ผู้เขียน | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ ไปหาแนวทางในการเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค จากปัจจุบันอยู่ที่ 200-300 บาทต่อบัตรต่อเดือน ว่า กระทรวงการคลังพร้อมที่จะศึกษาแนวทางตามที่ได้รับมอบหมายมาโดยยอมรับว่าที่ผ่านมาได้รับข้อมูลว่าประชาชนที่ได้สิทธิในบัตรสวัสดิการดังกล่าวตามต่างจังหวัด ส่วนใหญ่ไม่ได้มีการใช้บริการรถไฟ หรือรถ บขส. ซึ่งรัฐได้จัดสรรวงเงินในส่วนนี้ให้ผู้ถือบัตรอย่างละ 500 บาทต่อเดือน ดังนั้น จะมีการศึกษาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงความเป็นไปได้ในการโยกเงินในส่วนนี้เพื่อไปเพิ่มไว้ในส่วนของการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่ร้านธงฟ้าแทน
“โครงการลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐนั้น วัตถุประสงค์หลักคืออยากจัดสวัสดิการให้ประชาชนที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด ซึ่งข้อมูลที่ได้รับมาเบื้องต้นพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้มีการเพิ่มวงเงินในการซื้อสินค้าผ่านร้านธงฟ้ามากขึ้น ดังนั้น ก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะมีการเพิ่มวงเงินโดยการโยกเงินจากสวัสดิการบางส่วนที่ประชาชนไม่ค่อยได้ใช้บริการมาเพิ่มในส่วนนี้ เช่น อาจจะเพิ่มเป็น 700 และ 800 บาท แต่ยืนยันว่าวงเงินงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 จะยังอยู่ที่ 4.19 หมื่นล้านบาท ไม่ปรับเพิ่มขึ้นแม้จะมีการปรับเพิ่มวงเงินในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่ร้านธงฟ้าก็ตาม” นายสมชัย กล่าว
สำหรับความคืบหน้าในการติดตั้งเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่องอีดีซี) นั้น ขณะนี้ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ได้เร่งดำเนินการติดตั้งเครื่องอีดีซีเพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย โดยคาดว่าภายในเดือน ต.ค.-พ.ย. นี้จะดำเนินการแล้วเสร็จ พร้อมทั้งได้ประสานกับกระทรวงพาณิชย์ และกรมบัญชีกลางในการดำเนินการส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้บัตรของผู้ถือบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยเป็นไปอย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพมากที่สุด
สำหรับการใช้งานบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรแมงมุม) กับระบบตั๋วร่วม (e-Ticket) กรมบัญชีกลาง ได้ร่วมกับสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ทำการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานเครื่องอ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (e-Ticket) ที่ติดตั้งบนรถเมล์ธรรมดาของ ขสมก. เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผลการใช้งาน เครื่องอ่านบัตรสามารถตรวจสอบและหักเงินได้อย่างแม่นยำ ทั้งนี้ ทาง ขสมก.จะดำเนินการทดสอบการใช้งานบัตรกับเครื่องอ่านบัตรที่ติดตั้งบนรถเมล์ธรรมดา จำนวน 800 คัน ตลอดเดือนต.ค. 2560 เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการใช้งานได้จริง และจะให้ผู้มีสิทธิใช้บัตรสวัสดิการขึ้นรถเมล์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2560 ต่อเนื่องจากการใช้บริการรถเมล์ฟรีที่รัฐบาลขยายการให้บริการถึงสิ้นเดือนนี้
สำหรับการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรแมงมุม) กับรถไฟฟ้า สนข.แจ้งว่า อยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบการขายตั๋วของรถไฟฟ้าให้รองรับบัตรแมงมุม (ตั๋วร่วม) ซึ่งคาดว่าจะพร้อมให้ใช้งานได้ประมาณกลางปี 2561 เป็นต้นไป
ในส่วนของวงเงินซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าประชารัฐ วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม วงเงินค่าโดยสารรถ บขส. และวงเงินค่าโดยสารรถไฟ เมื่อได้รับบัตรแล้วสามารถใช้บัตรได้ทันที และหากใช้วงเงินในบัตรไม่หมดจะยกยอดวงเงินแต่ละประเภทสวัสดิการที่คงเหลือจากการใช้จ่ายในเดือน ต.ค. 2560 ให้ไปใช้ต่อได้ในเดือน พ.ย. 2560 ตามที่เคยได้แจ้งให้ผู้มีสิทธิได้รับทราบไปก่อนหน้านี้แล้ว
ในกรณีที่ผู้มีสิทธิได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในจังหวัดอื่นนอกเหนือจาก 7 จังหวัด หากมีความประสงค์ขอเปลี่ยนเป็นบัตรที่ใช้กับระบบตั๋วร่วม (แมงมุม) เนื่องจากได้เปลี่ยนแปลงที่อยู่ปัจจุบันมาอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร และ 6 จังหวัดดังกล่าว อาจขอยื่นเปลี่ยนบัตรได้ตามหลักเกณฑ์ที่กรมบัญชีกลางกำหนด ซึ่งสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.cgd.go.th คลิกที่แบนเนอร์ National e-Payment
“รัฐบาลมีความตั้งใจจริงที่จะให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างถูกกลุ่มเป้าหมายและสอดคล้องกับความต้องการผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้งนี้ จะมีการประเมินโครงการในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง และพร้อมจะปรับปรุงพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนต่อไป” นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าว