เผยแพร่ |
---|
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้พฤติกรรมนักท่องเที่ยวทั่วโลกเริ่มเปลี่ยนแปลงไป มีการเดินทางท่องเที่ยวเอง (เอฟไอที) มากขึ้น เป็น 60-70% ส่วนเดินทางโดยกรุ๊ปทัวร์ลดลงเป็น 30-40% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางเข้ามาเที่ยวไทย ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับทั่วโลก ส่วนเป้าหมายการเดินทางเริ่มไปยังเมืองรองมากขึ้น ส่งผลให้เมืองหลักดั้งเดิมที่นักท่องเที่ยวเคยมาประจำ อาทิ กรุงเทพฯ พัทยา และเชียงใหม่ จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ส่งผลให้โรงแรมมีการแข่งขันกันในเรื่องของราคามากขึ้น และลดราคาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น
สำหรับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป น่าจะเป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงการลงทุนของกลุ่มผู้ประกอบการที่จะต้องกระจายการลงทุน ทั้งเรื่องของโรงแรมและบริการการท่องเที่ยวในยังเมืองรองมากขึ้น เพื่อรับมือกับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในเมืองรอง ที่ผ่านมายอมรับว่าการเดินทางไปโรดโชว์แหล่งท่องเที่ยวในต่างประเทศ ไทยนำเสนอเมืองหลักเมืองเดิมๆ ที่เคยเดินทางมา ที่ขายประจำ นักท่องเที่ยวเริ่มไม่สนใจ อาทิ ขายพัทยาให้กับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น เริ่มไม่ได้รับความสนใจ แต่หากเปิดเมืองรอง สถานที่ใหม่ โปรแกรมใหม่ๆ ยังได้รับความสนใจอยู่มาก
“ปัจจุบัน พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีน เริ่มเปลี่ยนไปมากจากเดิมที่จะเน้นเดินทางมากับทัวร์ ก็เปลี่ยนเป็นเอฟไอที และก็เริ่มเบื่อที่จะท่องเที่ยวในเมืองหลัก ไปท่องเที่ยวในเมืองรองมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรมในเมืองรอง โดยจากข้อมูลพบว่า เริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวจีน ไปท่องเที่ยวที่จ.บึงกาฬ แล้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องดีมากที่จะช่วยกระจายรายได้ไปสู่ต่างจังหวัด”นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า
ขณะที่การเดินของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงเทศกาลวันชาติ ระหว่างวันที่ 1-8 ต.ค. ที่ผ่านมา พบว่าไทยถือเป็นจุดมุ่งหมายอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวจีนในการเดินทางมายังต่างประเทศ มีทั้งสิ้น 227,648 คน เพิ่มขึ้น 69.04% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน คิดเป็นรายได้ 12,528 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ที่มา ข่าวสดออนไลน์