ฝนถล่มกรุงท่วม10จุด จตุจักรตื่น-ลูกเห็บตก! ต้นไม้ หักล้มขวางถนน หนักสุดคลองสามวา

ฝนถล่มกรุง! ตื่นลูกเห็บตก ลมแรงพัดต้นไม้ หักล้มขวางถนน ศูนย์ควบคุมป้องกันน้ำท่วมกทม. รายงานฝนหนักสุดที่เขตคลองสามวา ท่วมถนน 10 จุด ขณะที่ปภ. ได้รับรายงานฝนตกลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกในพื้นที่รัชดาฯ ลาดพร้าว สุทธิสาร ดินแดง แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ ส่วนที่อ่างทอง เจ้าพระยาล้นตลิ่ง!ทะลักท่วมเมือง ชาวบ้านเก็บของหนีน้ำโกลาหล ขนยานพาหนะไปไว้บนถนนสูง ผู้ว่าฯสั่งจับตาเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร รายงานสภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯโดยตั้งแต่เวลา 11.45 น. เกิดฝนเล็กน้อย ปานกลางถึงหนักในเขตดอนเมือง บางเขน หลักสี่ สายไหม คันนายาว ลาดพร้าว มีนบุรี คลองสามวา ดินแดง ห้วยขวาง บึงกุ่ม บางกะปิ สะพานสูง สวนหลวง พระโขนง บางนา ประเวศ ลาดกระบัง คลองเตย หนองจอก อ.เมืองสมุทรปราการ อ.เมืองสมุทรสาคร เคลื่อนตัวทิศใต้ ไปบางขุนเทียน ทุ่งครุ

ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังสูง 5-20 ซ.ม. กว้าง 1 ช่องจราจรถึงเต็มผิวจราจร 10 จุด ได้แก่ บริเวณช่วงจากซ.อินทามระ 45 ถนนประชาสุข เขตดินเเดง บริเวณช่วงแยกการไฟฟ้ามีนบุรี ถนนสุวินทวงศ์ เขตมีนบุรี บริเวณช่วงจากหมอชิตใหม่ ถนนกำเเพงเพชร 2 เขตจตุจักร บริเวณวงเวียนบางเขน ถนนพหลโยธิน เขตบางเขน บริเวณช่วงสวนสิริกิติ์ ถนนกำเเพงเพชร 3 เขตจตุจักร บริเวณแยกสะพานควาย ถนนประดิพัทธ์ เขตพญาไท บริเวณขาเข้าหน้าโลตัส ถนนเเจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ บริเวณขาออกหน้า ร1 พัน2 ถนนเเจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ บริเวณตลาดอมรพันธ์ ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร และบริเวณช่วงกรมการขนส่งทางบก ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร โดยปริมาณฝนสูงสุดที่เขตคลองสามวา

ขณะที่ศูนย์ข้อมูลสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้รับรายงานฝนตกลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกในพื้นที่กรุงเทพฯ บริเวณรัชดาฯ ลาดพร้าว สุทธิสาร ดินแดง แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ

โดยเมื่อเวลา 15.49 น. เกิดเหตุต้นไม้ขนาดใหญ่ความสูงประมาณ 5 เมตร เอียงโค่นลงมาขวางถนนบริเวณริมถนนซอยอินทามระ 27 ฝั่งขาออกหน้าไปรษณีย์ ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสุทธิสาร พร้อมเจ้าหน้าที่เขตพญาไทต้องปิดการจราจรทั้ง 2 ฝั่ง จากนั้นตัดและเคลื่อนย้ายออกโดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง หลังมีฝนตกลงมาอย่างหนักและมีลมกระโชกแรกประกอบกับรากของต้นไม้อยู่ตื้นจึงไม่สามารถทนต่อแรงลมได้

ส่วนที่จ.ชลบุรี ฝนตกกระหน่ำต่อเนื่องหลายชั่วโมงในพื้นที่เมืองพัทยา จนระบบระบายไม่ทันทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมขังหลายจุด รถยนต์ขนาดเล็กสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะบริเวณถนนพัทยาสาย 3 แยกมุมอร่อย ซึ่งมีลักษณะพื้นที่เป็นแอ่งกระทะมีน้ำท่วมขังสูง 50-60 ซ.ม. กินพื้นที่เป็นบริเวณกว้างลักษณะคล้ายบ่อน้ำขนาดใหญ่ ด้านบริเวณชายหาดพัทยา มีน้ำท่วมขังสูง 40-50 ซ.ม. ตลอดแนวชายหาดและน้ำกัดเซาะริมชายหาดลงไปสู่ทะเลจนเกิดภาพลักษณะคล้ายธารน้ำตก

ที่จ.อ่างทอง ที่หมู่ที่ 1 ต.จำปาหล่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งคันเขื่อนทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อน ระดับน้ำสูงประมาณ 80 ซ.ม. ชาวบ้านต้องนำยานพาหนะไปไว้บนถนนและเร่งเก็บของหนีน้ำกันโกลาหล บางบ้านต้องนำเรือพายมาเป็นพาหนะในการสัญจรเข้าออก

นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผวจ.อ่างทอง เปิดเผยว่า ตามที่ปภ.และกรมชลประทาน แจ้งว่าช่วงวันที่ 9-10 ต.ค. ในพื้นที่จ.อ่างทอง จะได้รับผลกระทบในหลายอำเภอตนสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำท่า และน้ำฝนอย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์สุ่มเสี่ยงเกิดสาธารณภัยจากภาวะน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมฉับพลัน ให้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำและติดริมแม่น้ำให้ขนทรัพย์สินขึ้นสู่ที่สูงและอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งขณะนี้มีบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่หมู่ 1 ต.จำปาหล่อ ได้รับความเดือดร้อนแล้ว 38 หลังคาเรือน ประชาชนเดือดร้อนกว่า 100 ราย

ส่วนที่จ.ลำปาง สถานีอุตุนิยมวิทยาอำเภอเถิน จ.ลำปาง รายงานผลตรวจวัดปริมาณน้ำฝนในพื้นที่หลังเเกิดฝนตกหนัก พบว่ามีปริมาณน้ำฝน 121.4 ม.ม. ซึ่งสูงที่สุดในประเทศไทย ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ อ.เถิน จ.ลำปาง ยังคงอยู่ในภาวะวิกฤตน้ำยังไม่ลดปริมาณลงทำให้ต้องปิดสะพานข้ามแม่น้ำวังถึง 2 แห่ง คือ สะพานข้ามแม่วังระหว่างบ้านล้อมแรด หมู่ 4 ไปยังบ้านหนองบัวหมู่ 6 ต.ล้อมแรด โดยฝั่งบ้านหนองบัวไม่สามารถสัญจรข้ามไปมาได้ เพราะแม่น้ำวังเอ่อเข้าท่วมคอสะพานระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร แม่น้ำวังไหลเชี่ยวเจ้าหน้าที่ต้องนำแผงเหล็กกั้นตรงสะพานห้ามสัญจรอย่างเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัย เช่นเดียวกันกับสะพานเมืองเถิน 100 ปี ที่อยู่ถัดทางทิศเหนือของแม่น้ำวังไปประมาณ 2 ก.ม. การสัญจรไม่สามารถผ่านเข้าออกได้ ระดับน้ำในแม่น้ำวังเอ่อท่วมถนนโดยรอบ ชุมชนใกล้สะพานสูงกว่า 1 เมตร ต้องอ้อมไปใช้สะพานอีกแห่งที่อยู่ถัดไป

นอกจากนี้ระดับน้ำในแม่น้ำวังที่เอ่อสูงขึ้น ประกอบกับน้ำป่าไหลหลากจากลำห้วยต่างๆ รวมทั้งน้ำที่ไหลมาจากทุ่งนาได้ไหลทะลักเอ่อท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในพื้นที่ ต.เถินบุรี ต.ล้อมแรด ต.แม่ปะ ได้รับผล กระทบหลายครัวเรือน ชาวบ้านต้องรีบขนย้ายทรัพย์สินไปในที่ปลอดภัย บางส่วนขนย้ายไม่ทันต้องปล่อยแช่น้ำไว้ เช่นเดียวกันกับที่โรงเรียนล้อมแรดวิทยา ต.ล้อมแรด อ.เถิน น้ำท่วมสูง 50 ซ.ม. ขณะที่เทศบาลเมืองล้อมแรดและท้องถิ่นในพื้นที่แม่น้ำวังไหลผ่าน ประกาศเสียงตามสายให้ทุกชุมชนในพื้นที่ติดแม่น้ำวังขนย้ายทรัพย์สินไปในที่ปลอดภัย และเตรียมพร้อมอพยพหากน้ำวังมีปริมาณเพิ่มสูงจนล้นทะลักเข้าท่วม เนื่องจากหวั่นเป็นเหตุซ้ำรอยเหมือนปี 2554 ที่ผ่านมา

สำหรับถนนพหลโยธิน สายลำปาง-ตาก หลักก.ม.ที่ 616-618 เขตบ้านหนองเชียงราน ต.ล้อมแรด อ.เถิน น้ำป่าหลากท่วมถนนสูงกว่า 1 เมตร นอกจากนั้นยังเกิดเหตุรถยนต์เก๋งขับผ่านจุดน้ำป่าไหลท่วมถนนจนเสียหลักตกลงไปในน้ำโชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ต่อมาเวลา 13.30 น. นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผวจ.ลำปาง พร้อมด้วยนายชาคร ณ ลำปาง รรท.หัวหน้าปภ.ลำปาง และตำรวจสภ.เถิน ร่วมกันเข้าตรวจสอบเหตุ นายบุญเลย ยอดกันทา อายุ 62 ปีพลัดตกลงไปในลำห้วยป่าเปล่งซึ่งไหลตัดผ่านในหมู่บ้านสันทราย หมู่ 8 ต.แม่ปะ อ.เถิน เสียชีวิตหลังนำโพงพางมาดักปลาขณะมีน้ำป่ากำลังไหลหลากลงมาจากยอดเขาสูงในเขตอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย

ส่วนที่หมู่ 7 ต.สบปราบ อ.สบปราบ น้ำป่าหลากมากับลำห้วยแม่เรียงไหลผ่านกลางหมู่บ้าน ระดับน้ำไหลแรงและเชี่ยวกรากพัดพาเอาเศษกิ่งไม้ ดินโคลนมากับกระแสน้ำจำนวนมาก บางจุดเริ่มล้นตลิ่ง และกัดเซาะที่ดินติดลำห้วยจนทรุดตัวเป็นทางยาว ขณะที่บริเวณสะพานข้ามลำห้วยสมัย สะพานข้ามเขตระหว่างบ้านสบเรียง หมู่ 7 กับบ้านวังพร้าว หมู่ 3 ต.สบปราบ ระดับน้ำได้สูงขึ้นและเกือบล้นตลิ่ง บางจุดที่ลุ่มต่ำน้ำเริ่มท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน

ที่จ.พิจิตร ปริมาณฝนที่ตกหนักสะสมบนเทือกเขาเพชรบูรณ์ ทำให้มวลน้ำป่าก้อนใหญ่ไหลหลากลงมาตามลำคลองวังแดง และลำคลองสาขา ทะลักเข้าท่วมพื้นที่เขตเศรษฐกิจ ย่านการค้าที่สำคัญในตลาดสดเทศบาลตำบลทับคล้อเป็นรอบที่ 4 ส่งผลให้บรรดาผู้ประกอบการ ร้านค้าต้องเก็บสิ่งของ สินค้า หนีน้ำกันอย่างอลหม่าน ข้าวของที่เก็บหนีน้ำไม่ทันก็ถูกน้ำป่าพัดพาไปกับกระแสน้ำ รวมทั้งบ้านเรือนประชาชนเกือบ 500 หลังในชุมชนสระหลวง ชุมชนหมอลำ ชุมชนตลาดใต้ และชุมชนวัดมงคลทับคล้อ ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายทรัพย์สิน สัตว์เลี้ยงไปไว้บนที่สูงเนื่องจากระดับน้ำป่ายังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางคนต้องอพยพไปอยู่อาศัยบ้านญาติแทน

สถานการณ์ที่จ.ชัยภูมิ หลังฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องและน้ำบนเทือกเขาภูแลนคาที่ไหลลงสู่เขื่อนลำปะทาวเกิดล้นสปิลเวย์กว่า 80 ซ.ม. ซึ่งเกินกว่าที่จุดปลอดภัยของเขื่อนที่กำหนดไว้ไม่เกิน 50 ซ.ม.ส่งผลให้มวลน้ำเข้าท่วมชุมชนเมืองและขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ชุมชนโนนสมอ กุดแคน หนองบ่อ คลองเลียง บ้างส่วนแล้ว ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 40-100 ซ.ม. ชาวบ้านต่างรีบขนสิ่งของนำรถจักรยานยนต์ไปจอดไว้ที่ถนนสูง แต่บางหลังขนหนีไม่ทันต้องจมอยู่ใต้น้ำเสียหาย

โดยนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผวจ.ชัยภูมิ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและสั่งการให้นำเรือท้องแบนมาสำรองไว้ และระดมกำลังเจ้าหน้าที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไว้เพื่อเตรียมระบายน้ำลงลำน้ำชี นอกจากนั้นยังขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากผู้นำชุมชน เทศบาล อำเภอ และจังหวัดอย่างใกล้ชิดในขณะนี้

ที่จ.อุทัยธานี นายสมชาย นาคทัพ นายกอบต.ทองหลาง ต.ทองหลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี พร้อมด้วย นายธีระวุฒิ ศรีพนมวัลย์ ส.อบจ.เขต 2 นายประเวท อยู่รอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 นำข้าวสารอาหารแห้งเข้าช่วยเหลือชาวกะเหรี่ยงหมู่บ้านอีซา ซึ่งติดอยู่ในหมู่บ้านหลังถนนถูกน้ำเซาะตัดขาดและกำลังเดือดร้อนหนัก พืชผลทางเกษตรเช่นสับปะรดที่สุกแล้ว 40 ตันและสินค้าอื่นๆ ที่จะออกสู่ท้องตลาดไม่สามารถขนออกมาได้

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์