จับแก๊งตุ๋น 300 ล้าน อ้างเป็น รัชทายาทมอญ ลวงร่วมลงทุน ในเมียนมา มีบริษัทตกเป็นเหยื่อกว่านับร้อย เข้าร้องดีเอสไอ-กองปราบฯ ตามรวบคนไทยร่วมทีมได้ 2 ส่วนหนุ่มเมียนมายังหลบหนี หลังจับกุมได้ ทหารขออายัดตัวนำสอบในมทบ.11

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 ต.ค. พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.จรูญเกียรติ บานแก้ว ผกก.4 บก.ป. อาศัยอำนาจตามมาตรา44 เข้าตรวจค้นมูลนิธิอาสาบรรเทาภัย หน่วยปฏิบัติการบรรเทาภัยตำรวจพลเมือง เลขที่ 91/267 โครงการอาร์เค ออฟฟิศ ปาร์ค ถนนสุวินทวงศ์ แขวงและเขตสุวินทวงศ์ หลังสืบทราบว่ามีการหลอกลวงสมาชิกให้ร่วมลงทุนธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้าน มูลค่าความเสียหาย 300 ล้านบาท

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า เนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับ ดีเอสไอ และบก.ป. ว่าได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงของกลุ่ม บ.ฮัจยี กรุ๊ป จำกัด ซึ่งมีนางสุภัตทา จันทร รังษี เป็นประธานกรรมการบริษัท ร่วมกับ นายกอว มิน อู หรือเจ้าเทพโยธิน มหาทุน สัญชาติเมียนมา ซึ่งแอบอ้างเป็นเจ้าแห่งรัฐมอญ สร้างเรื่องเท็จหลอกนักธุรกิจไทยร่วมลงทุนที่รัฐมอญ ในประเทศเมียนมา และมีบริษัทหลงเชื่อกว่า 100 แห่ง ร่วมลงทุนใน 78 โครงการ โดยทางดีเอสไอได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขบวนการดังกล่าวทราบว่ามีการแอบอ้างเบื้องสูง ก่อนเสนอพ.ต.อ. ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ขออนุมัติเป็นคดีพิเศษ 217/2560

ต่อมาวันที่ 5 ต.ค. ได้ออกหมายจับ ผู้ต้องหา 3 ราย คือ 1.นางสุภัตทา 2.นายกอว มิน อู และ 3.นายโกสินธ์ จินาอ่อน สัญชาติไทย ในฐานความผิดร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา และร่วมกันเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 6 ต.ค. เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น บริษัท ฮัจยี กรุ๊ป จำกัด(ไทย) ต.บ้านบึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเปิดรับเหมาก่อสร้าง กิจการขนส่งและขนส่งทางบก พบเครื่องแต่งกายคล้ายชุดราชการไทยซึ่งเอาไว้หลอกลวงคนร่วมลงทุนว่าต้องสมัครสมาชิกก่อน จากนั้นจึงนำชุดดังกล่าวไปสวมใส่เวลาเดินทางไปรัฐมอญ โดยมีค่าประดับยศ พล.ต. 30,000 บาท และ พล.ท. 50,000 บาท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวต่อว่า ส่วนการสอบสวนเบื้องต้น นางสุภัตทา ให้การว่าเงินส่วนหนึ่งที่ได้รับมาจากผู้เสียหายนำมามอบให้มูลนิธิอาสาบรรเทาภัย หน่วยปฏิบัติการบรรเทาภัยตำรวจพลเมือง ซึ่งสังกัดมูลนิธิอาสาบรรเทาภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. จึงตรวจสอบไปที่กระทรวงมหาดไทย พบว่าไม่มีหน่วยงานดังกล่าวจริง ทำให้วันนี้จึงเดินทางมาตรวจสอบสถานที่แห่งนี้”

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวด้วยว่า สำหรับนายโกสินธ์ทราบว่าเป็นอดีต บ.ก.นิตยสารท้องถิ่นฉบับหนึ่ง และร่วมขบวนการสร้างเว็บไซต์และข่าวให้น่าเชื่อถือ ส่วน นายกอว มิน อู ที่แอบอ้างเป็นรัชทายาทมอญ ขณะนี้ยังหลบหนีอยู่ที่ประเทศเมียนมา

ที่มา ข่าวสดออนไลน์