นศ.แพทย์มอบตัวแล้วปฏิเสธวางยาหมาเอาเงินประกัน อ้างเป็นวิตามินฉีดลดความดัน

กรณีนายภัทรพงศ์ ทรงทรัพย์กุล อายุ 25 ปี นักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่ 6 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล วางยาฆ่าสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนหวังเรียกร้องเงินประกัน 5 หมื่นบาทจากบริษัทรับขนส่ง ที่ว่าจ้างให้นำสุนัขเคราะห์ร้ายไปส่งที่ จ.นครราชสีมา ในข้อหาพยายามฉ้อโกง และตามพ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 ก่อนที่สัตวแพทย์ผ่าซากสุนัขพบยาเม็ดกว่า 10 เม็ดในกระเพาะอาหาร หลังเกิดเหตุสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมาเข้าแจ้งความที่สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ให้ดำเนินคดีเจ้าของสุนัขในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ก่อนที่สภ.โพธิ์กลาง จึงออกหมายเรียกหนุ่มนักศึกษาแพทย์ ให้มารับทราบข้อกล่าวหา แต่ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากหนุ่มนักศึกษาแพทย์ เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 29 ก.ย. ที่สน.สุทธิสาร นายภัทรพงศ์ ทรงทรัพย์กุล อายุ 25 ปี นักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่ 6 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร โดยมีบิดาเดินทางมาด้วย เจ้าหน้าที่ได้พิมพ์ลายนิ้วมือและสอบปากคำให้การปฏิเสธ เบื้องต้นแจ้งข้อหาพยายามฉ้อโกง เนื่องจากในข้อหาการทารุณกรรมสัตว์ยังไม่พบพฤติกรรมที่ชัดเจน แต่หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริงสามารถแจ้งข้อหาเพิ่มได้ในภายหลัง

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายภัทรพงศ์ให้การปฏิเสธ พร้อมระบุว่ายาที่ฉีดให้กับสุนัขเป็นวิตามินซีเท่านั้น ที่ต้องฉีดเพราะว่าสุนัขมีอาการเครียดและมีความดัน จึงต้องฉีดเพื่อลดความดัน โดยก่อนที่จะฉีดเข้าไปก็ได้ปรึกษากับทางแพทย์ของคลีนิกแล้ว ทั้งนี้เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งเพียงข้อหา พยายามฉ้อโกงเท่านั้น เนื่องจากในข้อหาการทารุณกรรมสัตว์ยังไม่พบพฤติกรรมความผิดที่ชัดเจน

ด้านพ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผู้กำกับการ สน.สุทธิสาร กล่าวว่า วันนี้พนักงานสอบสวนไปยื่นขอศาลแขวงพระนครเหนือเพื่อขอออกหมายจับ แต่ผู้ต้องหาประสานเข้ามอบตัว ตำรวจจึงระงับการขอหมายจับไป และจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนกับการฉ้อโกง และไม่ขอให้การใดๆ ในชั้นพนักงานสอบสวน โดยขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น

ส่วนข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ตำรวจยังไม่สามารถแจ้งข้อหาได้ เพราะพยานหลักฐานยังไม่ชัดเจนเรื่องชนิดของยา และไม่มีพยานยืนยันว่าผู้ต้องหาเป็นคนป้อนยาหรือฉีดยาให้สุนัขจนเป็นสาเหตุของการตาย แต่หากมีพยานหลักฐานเพิ่ม หรือมีพยานบุคคลมายืนยันว่าเห็นผู้ต้องหาป้อนยาให้สุนัขจริง ก็จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบประเภทยาอีกครั้ง เนื่องจากสุนัขตัวแรกที่ถูกวางยานั้น ไม่มีการผ่าชันสูตรเหมือนสุนัขตัวที่ 2

เบื้องต้นหลังจากพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาแล้ว ได้ปล่อยตัวผู้ต้องหาไป เพราะเป็นการเข้ามอบตัวเอง พร้อมเตรียมสรุปสำนวนให้แล้วเสร็จใน 30 วัน ก่อนส่งสำนวนให้อัยการมีความเห็นทางคดีต่อไป

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์