เผยแพร่ |
---|
วันที่ 29 ก.ย. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้ราชสกุล องคมนตรี คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระ รัฐ วิสาหกิจ และภาคเอกชน ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง อาทิ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, บริษัท โชคนิพล หมูป่า จำกัด, ร้านสลัดไฮโซ, ครัวแม่ทองเพียร (ลำปาง), คณะศิษย์เก่าโรงเรียนศรีวิชัยวิทยา จังหวัดนครปฐม, ชมรมปั้นเด็กดี, บริษัท รักษาความปลอดภัย ทีเอสจี สเปเชียลการ์ด กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ลิมไลน์แอพพาเรล จำกัด, บริษัท เดอะปาซ จำกัด, กลุ่มผู้ประกอบการ บีเอ็นไอ ประเทศไทย และครอบครัวนางจันทร์เพ็ญ แว่นทิพย์ พร้อมคณะ ฯลฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยว่าประชาชนจะมีโอกาสกราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ไม่ทั่วถึง และเพื่อพระราชทานขวัญและกำลังใจแก่ประชาชน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เลื่อนกำหนดวันสุดท้ายของการกราบถวายบังคมพระบรมศพ จากเดิมวันที่ 30 ก.ย.60 ออกไปเป็นถึงเวลา 24.00 น.ของคืนวันที่ 5 ต.ค.60 โดยสำนักพระราชวังได้สนองพระมหากรุณาธิคุณด้วยการเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพ บนพระที่นั่งดุสิตได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน จนถึงวันที่ 5 ตุลาคม เวลา 24.00 น. ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 6 วัน
ทั้งนี้ กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระมหาราชวัง (กอร.รส) จึงได้ปรับเวลาเปิดจุดคัดกรองจากเดิม คือ 04.00-21.00 น. เป็นเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง 2 จุด คือ จุดคัดกรองโรงแรมรัตนโกสินทร์ และจุดคัดกรองวงเวียนรักษาดินแดน ทั้งนี้ ประชาชนสามารถมารอเข้ากราบสักการะพระบรมศพได้ตลอดเวลา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 5 ต.ค.60
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่สำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนได้เข้ากราบพระบรมศพได้ 24 ชม. มีพสกนิกรต่างพร้อมใจเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศอย่างไม่ขาดสายในทุกช่วงของเวลา โดยเจ้าหน้าที่ได้เปิดจุดคัดกรองเพียง 2 จุด ได้แก่ จุดคัดกรองโรงแรมรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีประชาชนเข้าแถวยาวไปตลอดเส้นถนนราชดำเนินใน ล้นไปถนนราชดำเนินนอก ขณะที่จุดคัดกรองด้านวงเวียนหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน มีแถวประชาชนต่อคิวยาวตลอดเส้นถนนสนามไชย ทั้งนี้ ตลอดเส้นทางรอคอยมีจิตอาสาคอยให้บริการน้ำดื่มและเก็บขยะ แจกจ่ายอาหารให้แก่ประชาชน พร้อมรถสุขาเคลื่อนที่คอยให้บริการ
นางอวยพร บัวเพ็ง อายุ 56 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง ประชาชนจากจ.กระบี่ เดินทางพร้อมเพื่อนบ้าน 1 คันรถตู้ โดยเข้าแถวเพื่อรอคิวเข้ากราบพระบรมศพตั้งแต่เวลาตี 4 และได้เข้ากราบในเวลา 8 โมงเช้า เปิดเผยว่า ส่วนตัวเดินทางมากราบในหลวง ร.9 เป็นครั้งที่ 2 ด้วยความรักและความคิดถึงพระองค์ท่าน โดยที่จ.กระบี่ ในหลวงร.9 เคยเสด็จฯไปหลายครั้งมาก ส่วนตัวจำความได้ว่าครั้งหนึ่งเสด็จฯ ยังวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งขณะนั้นตนยังเด็ก มีประชาชนชาวกระบี่มาเฝ้ารอชมพระบารมีมากมาย รวมทั้งตนด้วย ยังประทับใจจนถึงวันนี้ ทั้งนี้ ทางจังหวัดกระบี่ได้จัดสร้างพระเมรุมาศขึ้นที่สวนสาธารณะธารา อ.เมืองกระบี่ โดยอยู่ไม่ห่างจากที่พักอาศัยมากนัก ตั้งใจจะไปร่วมพิธีในวันถวายพระเพลิงที่นั่นด้วย

นางอวยพร กล่าวภายหลังทราบว่า สำนักพระราชวังเปิดให้เข้ากราบ 24 ชม. ไปจนถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 5 ต.ค.ว่า รู้สึกตื้นตันใจมากค่ะ เพราะมีประชาชนอีกมากที่อยากเข้ามากราบพระองค์ เห็นคนมาจำนวนมากมารอคิวเป็นเวลาหลายชั่วโมง ก็ตื้นตันใจในความรักและศรัทธาที่มีต่อพระองค์ ส่วนตัวประทับใจพระราชกรณียกิจทุกๆ อย่าง ซึ่งล้วนแต่ช่วยเหลือประชาชนชาวไทยให้ได้อยู่ดีมีสุข และมีรายได้ จากนี้คงน้อมนำปรัชญาการดำเนินชีวิตที่ได้จากพระองค์มาใช้นำทางและสอนลูกหลานต่อไป
สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ตั้งแต่เวลา 05.00 น. จนถึงเวลา 04.30 น. ของวันที่ 29 ก.ย. เนื่องจากยังมีประชาชนเข้าแถวรอกราบสักการะพระบรมศพในมณฑลพิธีสนามหลวงเป็นจำนวนมาก ว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 57,023 คน รวม 330 วัน มี 11,452,228 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 5,112,729.75 บาท รวม 330 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 851,486,098.51 บาท
โดยในวันนี้ เวลา 08.00 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ หน่วยพระราชทาน ประกอบด้วย หน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ประชาชนจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ รวมถึงสำนักระบายน้ำ รวมกว่า 1,000 คน ทำกิจกรรมจิตอาสา โดยรอบพระบรมมหาราชวัง เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เช้ามีหน่วยพระราชทานพร้อมใจกันมาทำกิจกรรม ได้แก่ ทำความสะอาดพร้อมทาสีคูเมืองเดิม จากสะพานผ่านพิภพลีลา ถึงสะพานมอญ ที่มีความกว้าง 10-15 เมตร และยาว 1,000 เมตร รวมถึงปลูกหญ้าบริเวณถนนราชดำเนินนอก พร้อมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณท้องสนามหลวง และสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับงานพระราชพิธี จนถึงวันที่ 31 ต.ค.
ต่อมาเวลา 15.00 น. นายหลิว เจี้ยน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย พร้อมภริยา และคณะเดินทางมาวางพวงมาลาแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
ที่มา ข่าวสดออนไลน์