“ตุ๊ก ดวงตา” เผยนิสัยขี้เหวี่ยง ทำงานหายเกือบปี เครียดจนแทบเป็นบ้า โชคดีได้ธรรมะเยียวยาจิตใจ

เป็นถึงรุ่นใหญ่ในวงการบันเทิง แถมยังมีละครออกมาให้ได้ชมอยู่ตลอด สำหรับ ตุ๊ก-ดวงตา ตุงคะมณี แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าเธอเคยผ่านมรสุมชีวิตเครียดงานหดจนแทบเป็นบ้ามาแล้ว โดยเธอได้เปิดใจผ่านรายการ ยิ่งศักดิ์ ยิ่งแซ่บ ให้ฟังว่า เริ่มเข้าวงการมาตั้งแต่ปี 2522 โดยมีเอกลักษณ์เป็นไฝบนใบหน้าที่ทำให้ใครเห็นก็จำได้ แถมยังขึ้นชื่อว่าเป็นดาราเจ้าบทบาทที่ค่าตัวไม่เบาคนหนึ่ง แม้ว่าตอนนี้จะได้เล่นบทแม่หรือยายก็ตาม

“อย่างหนึ่งที่บอกไว้เลย อย่าเห็นว่าคนแก่คนอายุเยอะแล้ว คุณค่ามันจะด้อยลง”

“สาวๆ ทำงานยังไง แก่ๆ ก็ทำงานเท่าเดิม ไม่ได้ลดลงตามอายุนะ เผลอๆ จะใส่พลังไปเยอะขึ้นซะอีก เพราะกลัวเด็กๆ มันว่า”

นอกจากความฮอตในเรื่องงาน ชีวิตปกติก็ถือว่าเป็นสาวแซ่บไม่เบา แถมยังมีข่าวเมาธ์ว่าคนในวงการต่างกลัวกิตติศัพท์ความวีนเหวี่ยงของเธอด้วย ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่า

“อาจจะมีช่วงหนึ่งที่เราเหวี่ยงวีนเยอะ อารมณ์ร้อน”

แต่ก็ไม่ใช่ซะทั้งหมดที่คนเขาพูดกัน เพราะก็จะมีคนที่ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด ไปพูดต่อเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่ ไม่ได้รู้จักกัน

“จะบอกว่าเราเป็นคนพูดจาอย่างนี้ไง เราเป็นคนตรง โผงผาง ขวานผ่าซาก พูดเสียงดัง หน้าตาเราก็จะไปหมด เวลาเราพูดเราจาคนก็จะคิดว่าเราดุ”

ก่อนจะบอกว่า แต่ละครั้งที่เหวี่ยง เธอก็มีเหตุผลเสมอ เพราะถ้าใครไม่ผิดก็จะไม่มีการวีนใส่แน่นอน

“เหวี่ยงแรงมาก เพราะว่าเป็นคนเอ็กซ์ตรีม ไม่มีตรงกลาง แต่ถ้าไม่ผิดจะไปเหวี่ยงเขาได้ไง เขาเป็นลูกมีพ่อมีแม่ ไปเหวี่ยงเขาแล้วเขาจะไม่ตบเอาหรอ”

แต่ก็มีช่วงหนึ่งที่งานหายไป ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเหวี่ยงวีนของตนเองหรือเปล่า

“ตกงานเลย ก็คือเขาเอารายการคืนไปทั้งหมด ตอนนั้นเป็นพิธีกรอยู่ 4-5 รายการเลยนะ เปลี่ยนพิธีกรมั่ง เลิกรายการมั่ง เอาเวลาคืนมั่ง เอาเวลาไปให้ทีมเขาทำมั่ง จากที่ทำอยู่แน่นเอี้ยดก็หายไปหมดเลย”

“แล้วละครก็ไม่มี เกิดมาไม่เคยมีสุญญากาศเลย ตัวเองเคยบ่นอยู่ว่าทำไมฉันเหนื่อยอย่างนี้ ทำงานไถนาเป็นควายขนาดนี้ ทำไมฉันไม่หยุดไปเที่ยวไหน นั่นแหละช่วงนั้น ฟ้าก็ให้พัก ปี 2548 ข้ามไป 2549 เกือบปีเลยนะที่ไม่มีงานเลย ตกใจมาก”

และด้วยความเป็นหัวหน้าครอบครัว มีรายจ่ายเท่าเดิม แต่รายรับไม่มี เป็นสาเหตุให้เกิดความเครียดจนรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนบ้า

“จะเป็นบ้า เครียดมาก คอเลสเตอรอลพุ่ง แล้วก็เหมือนคนบ้า กินอะไรซ้ำซากจำเจ กินอยู่อย่างนั้นเป็นเดือนๆ กินข้าวเกรียบจิ้มน้ำพริกเผากับแคร์รอต กินอยู่อย่างนั้นเป็นเดือนๆ ไม่รู้เหมือนกันทำไม กินแทบทั้งวัน ทุกมื้อ”

“ก็ตอนนั้นก็คิด มันเลยคิดมากว่า นี่เราจะหลุดจากวงการนี้แล้วหรอ เราขายไม่ได้แล้วหรอ มันถึงฟุ้งซ่าน” เธอว่า

แต่นี่ก็เป็นโอกาสที่ทำให้เธอได้ไปพบกับการเข้าวัดปฏิบัติธรรมเพื่อเอามาเยียวยาจิตใจของตัวเอง

“ก็ไม่คิดหรอกว่าจะทำ เพราะตอนนั้นชีวิตยังลั้นลาอยู่ จนกระทั่งช่วงว่างของชีวิต ธรรมะจัดสรรให้เราได้เข้าวัดจริงๆ แล้วเราก็ไปเจอหลวงพ่อกล้วยแห่งวัดป่าธรรมอุทยาน ซึ่งเป็นพระผู้ให้ และเป็นพระที่เปลี่ยนแปลงเราทั้งชีวิต เพียงแค่เวลา 1 คืน 2 วัน”

จนชีวิตตอนนี้กลับมาดี และมีความสุขมากกว่าเดิม “มีความสุขมาก ชีวิตช่วงนี้พี่มีความสุขมาก พี่จะตายก็ตายได้นะ”

และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดของผู้หญิงคนนี้ “ดวงตา ตุงคะมณี”

ขอบคุณคลิปจาก NineEntertain