นิวยอร์กโพสต์ รายงานว่า ยอดขายของไนกี้ (Nike) ผู้นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลกลดลงอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับอาดิดาส (Adidas) โดยเเบรนด์ไนกี้ในทวีปอเมริกาเหนือ นับเป็นเเบรนด์รองเท้าผ้าใบที่ขายดีที่สุดในโลก กลับมียอดขายสะดุดลงในช่วงไม่กี่ไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากความผิดพลาดในการออกเเบบจากนักออกเเบบของบริษัท

สำหรับ “Swoosh-meisters” ของไนกี้ในอเมริกาเหนือ ยอดขายลดลง 3 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง มิถุนายน-31 สิงหาคม ที่ผ่านมา เเละเป็นครั้งเเรกในรอบ 10 ปี ที่ไนกี้ไม่ได้เผยผลกำไรในภูมิภาคที่มีการขายมากที่สุด

ขณะเดียวกัน อาดิดาสให้ความสำคัญกับการออกเเบบของบริษัทมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายในอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเกือบ 26 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 6 ไตรมาสที่ผ่านมา

เรนดัล โคนิค นักวิเคราะห์ ของ Jefferies กล่าวว่า อาดิดาสประสบความสำเร็จในการย้อนยุครองเท้า ด้วยการนำรุ่นเก่ามาออกเเบบให้ร่วมสมัย ไม่ว่าจะเป็น รองเท้าสำหรับวิ่ง หรือการกีฬา

โรเบิร์ต โอมห์ นักวิเคราะห์จาก Bank of America กล่าวว่า เเม้ไนกี้จะมีการชูเรื่องย้อนยุครองเท้า ในรุ่น Roshe, Free และ Jordan เเต่ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเพียงพอ ที่จะสร้างรายได้ให้กับไนกี้

ด้านเทเวอร์ เอ็ดเวิร์ด ประธานไนกี้ กล่าวในการประชุมทางไกลช่วงเย็นวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อรายงานผลประกอบการในไตรมาสแรกของปีว่า กำลังมุ่งเน้นไปที่การสนองเเฟชั่นที่กำลังเริ่มดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ไนกี้ยังคงเป็นผู้นำการขายในสหรัฐ แต่การที่อาดิดาสใช้ประโยชน์จากความชื่นชอบกีฬาโอลิมปิกของอเมริกา ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ของตลาดค้าปลีก

นอกจากนี้ ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ การที่อาดิดาสเน้นในเรื่องนักกีฬา ผลักดันให้ได้ส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐอยู่ที่ 11.3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจาก 6.6 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เเละส่วนเเบ่งของไนกี้ลดลงจาก 39 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 37 เปอร์เซ็นต์ ทำให้หุ้นของอาดิดาสเพิ่มขึ้นร้อยละ 42.3 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2017 ขณะที่หุ้นของไนกี้ลดลงร้อยละ 1.9 เปอร์เซ็นต์ โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเพียง 3.6 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้

สำหรับยอดขายทั่วโลกของอาดิดาสเพิ่มขึ้นเป็น 22,700 ล้านดอลลาร์ ในปี 2016 เเละไนกี้มีรายได้อยู่ที่ 34,400 ล้านดอลลาร์ในช่วง 12 เดือนสิ้นสุดในวันที่ 31 พฤษภาคม

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์