เผยแพร่ |
---|
เมื่อวันที่ 7 กันยายน นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า หลังจากมีข้อเรียกร้องการใช้สิทธิประกันสังคม จากผู้ประกันตนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวระยะที่ 3 แต่สิทธิประกันสังคมจ่ายยาให้เฉพาะคนที่เป็นมะเร็งระยะแรกนั้น กรณีดังกล่าว ทาง สปส. ขอย้ำอีกครั้งว่า ได้ให้ความคุ้มครองแก่ผู้ป่วยโรคมะเร็งและโรคอื่นๆ โดยไม่จำกัดค่ารักษา ซึ่งเป็นไปตามดุลพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษา สำหรับยาอิมาตินิบ (Imatinib) สปส. ได้สนับสนุนยาชนิดนี้ให้กับสถานพยาบาลที่ให้การรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในระยะสงบ (Chronic stable phase) ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการใช้ยาโดยประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ซึ่งเป็นมาตรฐานของประเทศ กรณีการรักษาโรคมะเร็งระยะลุกลาม (Accelerated phase) ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาด้วยวิธีปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นวิธีการรักษาตามมาตรฐานโดยการรับรองจากสมาคมโลหิตแห่งประเทศไทย
“หากการรักษา โดยที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดหรือเกินกว่าข้อบ่งชี้ตามมาตรฐานวิชาชีพ แต่เป็นความจำเป็นที่ผู้ป่วยจะต้องได้รับการรักษา ทางเราก็จะดูแลให้ผู้ประกันตนได้รับการรักษาภายใต้ข้อกฎหมาย และระเบียบที่มีต่อไป โรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิต้องดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งตั้งแต่ตรวจพบ จนสิ้นสุดการรักษาไม่ว่าจะอยู่ในระยะใดก็ตาม รวมถึงยาที่จำเป็นต้องใช้รักษาผู้ประกันตนตามดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษา สำนักงานประกันสังคมจะไม่ครอบคลุมเฉพาะยาที่อยู่ในระหว่างการค้นคว้าทดลอง ทั้งนี้ ในปี 2558 พบผู้ประกันตนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวแล้วจำนวน 1,399 คน ทาง สปส. จ่ายไปแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 326,003,145 ล้านบาท” นพ.สุรเดช กล่าว
นพ.ชาตรี บานชื่น ประธานคณะกรรมการการแพทย์ กองทุนประกันสังคม กล่าวว่า กรณีของการรักษาด้วยยาที่มีราคาสูงในระบบหลักประกันสุขภาพ ทั้งสามกองทุนจะอ้างอิงหลักเกณฑ์และข้อบ่งชี้การใช้ยาตามประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะมีคณะอนุกรรมการ และคณะทำงานประกอบด้วยนักวิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิในระบบสาธารณสุขพิจารณากำหนดรายการและข้อบ่งชี้การใช้ยาบัญชี จ (2) ภายใต้การนำเสนอข้อมูลทางวิชาการของราชวิทยาลัย และสมาคมวิชาชีพ โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผล ของการใช้ยาในแต่ละรายการ
“สำหรับผู้ป่วยรายนี้ ซึ่งเป็นข่าวในช่วงที่ผ่านมานั้น พบว่าเป็นการใช้ยาอิมาตินิบ รักษาโรคมะเร็งในระยะลุกลาม ซึ่งอยู่ในกระบวนการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อเพิ่มเติมข้อบ่งชี้ในการใช้ยาดังกล่าวในบัญชี จ (2) คาดว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จ และออกประกาศในระยะเวลาอันใกล้ สำหรับกรณีของผู้ป่วยรายนี้ สปส. ให้ความคุ้มครองในการรักษา ตามวิธีการรักษาของแพทย์ ถึงแม้จะไม่ตรงตามข้อบ่งชี้ของประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยาในปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและหลากหลาย หากยานั้นๆ ยังอยู่ในระหว่างทดลองและวิจัยอาจจะไม่ปลอดภัยและไม่เป็นผลดีกับผู้ป่วย ดังนั้น การใช้ยาที่เหมาะสมควรเป็นไปตามหลักเกณฑ์ข้อบ่งชี้ของประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ” นพ.ชาตรี กล่าว