ธนาคารโลกโปรยยาหอม อันดับทำธุรกิจไทยดีขึ้น

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยหลังการประชุมการติดตามความคืบหน้าการขับเคลื่อนการอำนวยการความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (Doing Business) ว่า การดำเนินงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อการจัดอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจขึ้นอย่างชัดเจน โดยล่าสุดของธนาคารโลก ได้ยืนยันผลการปฏิรูปของประเทศไทย ซึ่งสำรวจจากในช่วงเดือนพ.ค. 2560 ซึ่งระบุว่า ประเทศไทยมีการปฏิรูปการอำนวยความสะดวกธุรกิจดีขึ้นอย่างชัดเจนใน 4 ด้าน ได้แก่ 1.การเริ่มต้นธุรกิจ จากการยกเลิกข้อกำหนดในการให้ผู้ประกอบการจัดส่งสำเนาข้อบังคับการทำงานให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน รวมถึงยกเลกการใช้ตราประทับของบริษัทในใบหุ้น

นอกจากนี้ ยังมีการจดทะเบียนทรัพย์สิน จากการที่กรมที่ดินมีการจัดเก็บหนังสือแสดงสิทธิแบบอิเล็กทรอนิกส์ และมีการใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สำหรับแสดงข้อมูลรูปแปลงที่ดินในเขตกรุงเทพฯ 3.การคุ้มครองนักลงทุนรายย่อย จากการให้ผู้ถือหุ้นส่วนน้อยสามารถฟ้องร้องกรรมการบริษัทได้ง่ายขึ้น และ 4.การแก้ไขปัญหาการล้มละลาย จากการปรับเปลี่ยนวิธีการลงคะแนนเสียงในแผนการฟื้นฟู

นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า ผลการจัดอันดับ Doing Business ปีที่ผ่านมา 2560 ไทยอยู่อันดับที่ 46 แต่ในการจัดอันดับใหม่ล่าสุดปี 2561 ที่ธนาคารโลกจะประกาศผลการจัดอันดับในเดือนต.ค.นี้ ไทยคาดหวังว่าอันดับของไทยจะดีขึ้นอย่างแน่นอน โดยรองนายกฯ สมคิดต้องการให้อยู่ใน 39 อันดับแรก

 “ตอนนี้เป็นโอกาสดี เพราะประเทศไทยมีการปฏิรูปที่เร็วกว่าประเทศอื่น ทำให้แนวโน้มการจัดอันดับของไทยดีกว่า และเป็นโอกาสของไทยดีขึ้นในอนาคต เนื่องจากรัฐบาลไทยมีการทำงานอย่างเป็นเอกภาพ และมีเป้าหมายในการพัฒนาประเทศอย่างชัดเจน แตกต่างจากยุคก่อนที่เป็นนักการเมือง ซึ่งแต่ละกระทรวงก็บริหารจากหลายพรรคการเมือง ทำให้การพัฒนาได้ยุ่งยากกว่า”

นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นจากตัววัดผลการจัดอันดับทั้งหมด 10 เรื่อง มีถึงเรื่อง 4 เรื่องที่เราปฏิรูปดีขึ้นมาก ส่วนเรื่องที่เหลือเราจะเร่งดำเนินการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานที่ประชุม ได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ นำแผนปฏิรูปมาดูอีกครั้งว่าสิ่งที่ธนาคารโลกให้ปรับปรุงว่ามีอะไรที่ยังไม่ได้ทำบ้าง เพื่อให้รีบทำให้ลุล่วงโดยเร็ว พร้อมกับสั่งทุกหน่วยงานกำหนดแผนงาน ระยะเวลาให้ชัดเจน โดยจะต้องเชื่อมโยงไปสู่การบริการอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งธนาคารโลกให้ความสำคัญมาก ขณะเดียวกันจะมีการปลดล็อก ยกเลิกกฎหมายอีกหลายเรื่องเพื่อสร้างความคล่องตัวในการทำธุรกิจ

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์