ชื่นชม 2 ฮีโร่เด็ก! เก็บกระเป๋าเงินได้ ไม่คิดแม้แต่จะเปิดดู ส่งให้ตร. พบทรัพย์สินเป็นแสน

วันที่ 2 ก.ย. ร.ต.อ.ปภาสุต บวรพลภัทร รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ รับแจ้งจากนายอุดม สุมมาตร อายุ 46 ปี ที่ได้พา ด.ช.ชัยอุดม สุมมาตร อายุ 12 ปี บุตรชาย และ ด.ช.อนุวัฒน์ สุมมาตร อายุ 11 ปี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน พร้อมด้วยกระเป๋าหนังสีดำเข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ช่วยติดตามหาเจ้าของกระเป๋าใบดังกล่าวให้มารับคืน หลังจากที่ลืมเอาไว้ที่บริเวณสถานที่ปล่อยปลาหลังตลาดเอี่ยมเจริญ ริมคลองสำโรง ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ บุตรชายและหลานได้ไปพบก่อนนำมาให้ตนดูและพามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามเจ้าของกระเป๋าใบดังกล่าว

โดยที่ยังไม่ได้เปิดดูว่าภายในกระเป๋าใบดังกล่าวมีอะไรอยู่บ้าง หลังจากรับแจ้ง ร.ต.อ.ปภาสุต พร้อมด้วยนายอุดม และเด็กชายทั้งสอง จึงได้เปิดกระเป๋าใบดังกล่าวดูเพื่อตรวจสอบทรัพย์สินภายใน ได้พบว่าในกระเป๋าใบดังกล่าวมีเงินสดอยู่จำนวน 57,761 บาท และสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้น แหวนทองหัวพลอย 1 วง นาฬิกาข้อมือ 1 เรือน หนังสือเดินทางออกนอกประเทศ 1 เล่ม และนามบัตรที่ระบุชื่อ น.อ.ชัยณรงค์ บุณยริตกลิน อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นข้าราชการทหารเรือ และเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งชื่อตรงกับที่ระบุไว้ในหนังสือเดินทางออกนอกประเทศ

โดย ด.ช.ชัยอุดม ได้เล่าว่า ก่อนที่จะไปพบกระเป๋า ตนและ ด.ช.อนุวัฒน์ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกันได้ช่วยแม่ของตนขายของอยู่ที่ตลาดดังกล่าว ก่อนที่จะพากันมาเดินดูปลาที่ริมคลองสำโรง หลังตลาด ซึ่งในขณะนั้นได้พบชายเจ้าของกระเป๋ากำลังซื้อปลามาปล่อยในคลองสำโรง โดยชายเจ้าของกระเป๋ายังได้พูดคุยกับตนทั้งสองว่ามาทำอะไร ตนทั้งสองจึงตอบว่ามาดูปลา ซึ่งในขณะที่ชายคนดังกล่าวกำลังปล่อยปลานั้นได้วางถุงที่ใส่ของมาหลายใบไว้ที่สะพานจุดปล่อยปลา หลังจากปล่อยปลาเสร็จ ชายคนดังกล่าวได้หยิบถุงใส่ของมาเดินออกไป ซึ่งตนทั้งสองก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะมัวแต่ดูปลาในคลอง

ก่อนที่จะเดินลงไปที่สะพานปล่อยปลาเพื่อไปดูปลาใกล้ ๆ จึงได้พบกระเป๋าใบดังกล่าววางอยู่กับพื้นสะพาน ซึ่งตนคิดว่าน่าจะเป็นของชายคนดังกล่าว จึงได้หยิบกระเป๋าและวิ่งตามหาชายคนดังกล่าว ได้มาพบชายที่มีรูปร่างคล้ายกับชายเจ้าของกระเป๋าจึงได้เข้าไปสอบถาม แต่ชายคนดังกล่าวปฎิเสธว่ากระเป๋าใบดังกล่าวไม่ใช่ของตนเอง ตนทั้งสองจึงได้เดินตามหาชายเจ้าของกระเป๋าอยู่นานแต่ไม่พบ จึงได้นำกระเป๋าไปให้แม่ของตนที่ร้านขายของในตลาด ก่อนที่แม่ของตนจะโทรศัพท์ไปบอกพ่อให้มาพาตนทั้งสองนำกระเป๋าใบดังกล่าวไปแจ้งตำรวจเพื่อตามหาเจ้าของ

จากนั้น ร.ต.อ.ปภาสุต ได้โทรศัพท์ตามหมายเลขที่ระบุไว้ในนามบัตรเพื่อสอบถาม ปรากฏว่า นายทหารคนดังกล่าวยังไม่ทราบเลยว่าตัวเองลืมกระเป๋าที่ใส่ทรัพย์สินเอาไว้ หลังจากที่นายทหารคนดังกล่าวได้แจงรายการทรัพย์ที่อยู่ในกระเป๋าใบดังกล่าวพบว่าตรงกับทรัพย์สินที่พบอยู่ในกระเป๋า จึงได้แจ้งให้นายทหารคนดังกล่าวมารับทรัพย์สินคืนที่โรงพัก สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ หลังจาก น.อ.ชัยณรงค์ ได้เดินทางมารับกระเป๋าและทรัพย์สินดังกล่าวคืน พร้อมทั้งมอบเงินจำนวน 1 หมื่นบาทให้กับเด็กชายทั้งสองเป็นรางวัลในฐานะที่เป็นเด็กดี พร้อมกล่าวขอบคุณนายอุดม พ่อของ ด.ช.ชัยอุดม ว่า อบรมลูกหลานได้ดีมากและเด็กทั้งสองก็เป็นเด็กดีที่ไม่เอาของของผู้อื่นไปเป็นของตนเอง