ปลูกสิ่งที่กิน กินสิ่งที่ปลูก เหลือก็แปรรูป มากเกินความต้องการก็แบ่งปันหรือนำไปขาย สร้างรายได้ให้ครอบครัว แต่สิ่งที่ได้มากกว่านั้นคือการฝึกความคิดสร้างสรรค์และการคิดต่อยอดแปรรูปผลิตภัณฑ์นั่นเอง

น้องกะทิ ด.ญ.ศศรัช ศรีทอง และครอบครัว ช่วยกันทำไร่แบบอินทรีย์ไม่ใช้สารเคมี โดยยึดหลักพึ่งพาตัวเองให้มากที่สุด เลือกปลูกสิ่งที่คนในครอบครัวชอบกิน และเนื่องจากมีดินที่บำรุงเป็นอย่างดีด้วยวิถีอินทรีย์ จึงทำให้ปลูกอะไรก็งอกงาม ผลผลิตเหลือเฟือ ครอบครัวของกะทิจึงเกิดความคิดอยากทำอาหารสูตรของบ้านกะทิออกไปแบ่งปันเพื่อนๆ บ้าง

“น้ำข้าวกล้องเกิดจากที่กะทิชอบตักน้ำข้าวต้มมากิน แต่ไม่ชอบกินข้าว แม่ก็เลยเอาข้าวกล้องมาแช่ให้งอก นำมาปั่นแล้วต้มเป็นน้ำข้าวกล้องงอกซึ่งกะทิชอบกินมาก แถมยังมีประโยชน์เพราะได้สารกาบาจากข้าวกล้องงอกและสารอาหารต่างๆ จากข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ที่เราปลูกเองด้วย” คุณแม่เจน รวีวรรณ ศรีทอง เล่าถึงที่มาของการแปรรูปข้าวเป็นอาหารสุดโปรดของน้องกะทิ

ไร่แผ่นดินสีทองออร์แกนิกฟาร์มของบ้านกะทิ อยู่ที่ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ปลูกพืชไร่หมุนเวียนทั้งปี โดยสลับกับพืชตระกูลถั่วเพื่อบำรุงดิน เก็บเกี่ยวเสร็จแล้วก็จะไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสดบำรุงดิน และปลูกข้าวปีละครั้งเพื่อไว้กินในครอบครัว โดยเลือกพันธุ์ข้าวที่คนในครอบครัวชอบกินและมีประโยชน์

“น้ำนมข้าวกล้องเราก็จะมีส่วนผสมข้าว 3 ชนิดค่ะ มีข้าวหอมมะลิแดง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวกล้องหอมมะลิค่ะ ทำเสร็จก็จะหอม อร่อยมากๆ มีเนื้อๆ ให้เคี้ยวหนึบๆ เหมือนเรากินข้าวต้มค่ะ แต่มีประโยชน์มากกว่า สูตรที่หนูชอบก็จะเป็นแบบไม่ใส่น้ำตาลค่ะ ใส่เกลือนิดหน่อย แต่ถ้าแบบที่บ้านเราทำขายจะมีสูตรหวานด้วย ซึ่งเราจะใส่น้ำตาลจากอ้อยที่บ้านเราปลูกเองเคี่ยวน้ำตาลเองค่ะ” น้องกะทิเล่าถึงเมนูโปรดของตัวเองอย่างมีความสุข

ครอบครัวของกะทิทำโฮมสคูลหรือบ้านเรียน และมีกลุ่มเครือข่ายครอบครัวเด็กๆ ที่ทำบ้านเรียนเหมือนกันอีกหลายครอบครัว ซึ่งนัดพบแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเป็นประจำ ทั้งการเรียนแบบรวมกลุ่มหรือนัดกันเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ สิ่งที่เด็กๆ บ้านเรียนรอคอยจะมาพบกันทุกปีคือตลาดนัดในสวน ที่ Little tree garden อ.สามพราน จ.นครปฐม

“ตลาดนัดในสวน ที่ Little tree เริ่มจากเด็กๆ กลุ่มบ้านเรียนของเรานัดกันเพื่อให้เด็กๆ นำของมาขายร่วมกันค่ะ จะจัดแค่ปีละครั้ง เพื่อเพิ่มทักษะเด็กๆ ให้รู้จักคิดและค้าขาย รู้จักการหาลูกค้า คำนวณต้นทุนกำไร กะทิเขาก็จะสนุกที่ได้เจอเพื่อนๆ แล้วก็เดินขายสินค้าเรียกลูกค้าไปทั่วๆ งานเลย ที่ขายดีก็เป็นน้ำนมข้าวกล้องงอก แล้วก็ชาข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่เราทำเองค่ะ ส่วนปีไหนมีผลิตผลอะไรพอดีเราก็จะนำมาขายด้วยค่ะ” คุณแม่เจนเล่าถึงที่มาของการมาออกร้านขายของ

น้องกะทิมีความสุขกับการได้มาออกร้านและนำผลิตผลดีๆ ที่บ้านมาขายให้เพื่อนๆ และคนที่มาเที่ยวในงานตลาดนัดในสวน โดยทุกครั้งก็จะได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ของบ้านตัวเองและได้ใช้ความคิดมากขึ้นด้วย

“นี่เป็นโลโก้ที่หนูคิดเองค่ะ เป็นรูปแมว แมวเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี แมวกวักก็เป็นการเรียกลูกค้านะคะ แล้วอีกอย่างหนูก็รักแมวมาก ตัวในรูปนี่เป็นเจ้าสีนวลแมววิเชียรมาศตัวโปรดของหนูเองค่ะ” กะทิเล่าถึงไอเดียการออกแบบโลโก้ของตัวเองอย่างมีความสุข

แม้ตลาดนัดในสวน Little tree จะมีแค่ปีละครั้ง ความตั้งใจในการปลูกพืชพรรณอินทรีย์ ความรักความเอาใจใส่ในการปรุงและนำมาจำหน่าย ได้ออกมาเป็นผลิตผลดีๆ นั่นเป็นแค่ส่วนหนึ่งของความสุขที่ครอบครัวนี้สร้างสรรค์และแบ่งปันให้ทุกคน

ติดตามชมฟาร์มและความสุขของน้องกะทิ แห่งจังหวัดสุพรรณบุรี ในรายการทุ่งแสงตะวันตอน “แบ่งปันจากบ้านกะทิ” วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคมนี้ ทางช่อง 3 ช่อง 33 และช่อง 13 เวลา 06.25 น.