สุดสะเทือนใจคนเลี้ยงหมา เมื่อเเรงงานเมียนมาร์ 4 คน รุมกันตี เเละชำเเหละหมานำไปย่างไฟเเกล้มเหล้าภายในเเคมป์คนงานกลางเมืองหาดใหญ่ ต่อหน้าต่อตาคนที่เลี้ยงหมาจรจัดตัวนี้นี้มากับมือ เเม้จะพยายามห้ามก็ไม่ฟัง ตำรวจเผยสามารถเอาผิดได้ แต่ต้องมีคนมาแจ้งความ หรือร้องเรียน

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 60 เจ้าหน้าที่อาสาช่วยหมาจรจัด บ้านหมายิ้ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พาผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบภายในแคมป์คนงานก่อสร้างชาวเมียนมาร์ของบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนหลังวัดหงส์ประดิษฐาราม หรือ วัดคอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากที่เมื่อวานนี้ได้มีแรงงานชาวเมียนมาร์ 4 คน รุมกันตีสุนัขจรจัดที่อยู่ภายในแคมป์จนตาย และนำมาชำแหละย่างกินกันสดๆภายในแคมป์ ซึ่งพบว่ายังมีร่องรอยของการก่อกองไฟ และตะแกรงพัดลมที่ใช้ย่างเนื้อสุนัขวางอยู่บริเวณลานหน้าแคมป์ เเต่ไม่พบเศษเนื้อ หรือกระดูกของสุนัขหลงเหลือไว้ให้เห็น ซึ่งคาดว่า เนื้อน่าจะถูกกินหมดแล้ว ส่วนกระดูก และซาก ได้ถูกนำไปทิ้งที่อื่น เเละในวันนี้ ก็ไม่พบแรงงานเมียนมาร์ทั้ง 4 คน เนื่องจากได้ออกไปทำงานตั้งแต่ช่วงเช้า

เจ้าหน้าหน้าที่ช่วยหมาจรจัด บ้านหมายิ้ม เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (22 ส.ค. 60) หลังจากที่มีคุณป้าท่านหนึ่ง ซึ่งได้นำอาหารมาให้สุนัขจรจัดที่อยู่ภายในแคมป์นับสิบตัวกินเป็นประจำ และได้มีคนงานชาวเมียนมาร์คนหนึ่งมาบอกว่า มีกลุ่มคนงานชาวเมียนมาร์จำนวน 4 คน ที่เพิ่งเข้ามาทำงาน และอยู่ในแคมป์ได้เพียง 2 วัน รุมทุบตีสุนัขจรจัดจนตายคามือ และกำลังลากเข้าไปในแคมป์ ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปข้างหลัง เพื่อชำแหละเป็นอาหาร

ทางคุณป้าท่านนี้จึงได้เดินตามรอยเลือดเข้าไปดู ก็พบว่า คนงานพม่าทั้ง 4 คน กำลังช่วยกันชำแหละสุนัข จึงพยายามห้าม และบอกว่า ให้หยุดทำ เพราะ สงสารสุนัข และผิดกฎหมาย แต่คนงานพม่าทั้ง 4 คน ก็ไม่ได้สนใจ เพราะ อาจจะฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง และยังคงชำแหละสุนัขต่อหน้าต่อตาคุณป้าคนนี้ ซึ่งขณะนั้นได้แต่ยืนร้องไห้ ทำอะไรไม่ถูก หลังเกิดเหตุจึงได้รีบแจ้งมายังตนให้เข้าไปช่วยเหลือ

เจ้าหน้าหน้าที่ช่วยหมาจรจัด บ้านหมายิ้ม เล่าว่า หลังจากที่ตนได้เข้าไปตรวจสอบภายในแคมป์ในช่วงประมาณ 5 โมงเย็น วันเดียวกัน ก็พบกับภาพที่หดหู่ใจ เนื่องจากพบชิ้นเนื้อของสุนัขถูกย่างอยู่บนเตาไฟด้วยตะแกรงพัดลม โดยมีคนงานพม่าทั้ง 4 คน นั่งกินอยู่ในแคมป์ที่พัก จึงได้ต่อว่าให้หยุดทำแบบนี้ และขู่จะแจ้งตำรวจ แต่คนงานพม่าทั้ง 4 คน รวมทั้งคนอื่นๆ ยังนั่งเฉยเหมือนกับไม่รู้เรื่อง จึงได้ออกมาคุยกับเสมียนของบริษัท เพื่อให้ช่วยตักเตือน และดูแลคนงานพม่าว่า อย่าให้ทำแบบนี้อีก เพราะ นอกจากจะผิดกฏหมายแล้ว ยังทำลายจิตใจคนไทย และคนที่รักสุนัข นอกจากนี้จากการสอบถามเพื่อนคนงานพม่าบอกว่า ในวันเกิดเหตุคนงานพม่าทั้ง 4 คน ได้ชวนกันตั้งวงกินเหล้ากันตั้งเเต่เช้า แต่ไม่มีกับเเกล้ม จึงได้ฆ่าสุนัขที่อยู่บริเวณเเคมเเคมป์ เพื่อไปแกล้มเหล้า ซึ่งฟังแล้วหดหู่ใจมาก

เจ้าหน้าหน้าที่ช่วยหมาจรจัด บ้านหมายิ้ม เล่าอีกว่า เรื่องนี้จะยังไม่เข้าแจ้งความกับตำรวจ แต่จะเข้าไปขอความร่วมมือกับทางเจ้าของบริษัทก่อสร้างเเห่งนี้ เพื่อให้ช่วยตักเตือน และห้ามปรามคนงานชาวเมียนมาร์ไม่ให้ฆ่าสุนัขมากินอีก และเหตุการณ์นี้ก็ขอให้เป็นบทเรียน

ขณะที่ นางนลิน ขันติสุวรรณ อายุ 60 ปี ชาวบ้านที่ไปพบเห็นเหตุการณ์ขณะคนงานเมียนมาร์กำลังช่วยกันชำแหละสุนัขกันสดๆ ได้พาผู้สื่อข่าวไปตรวจจุดที่มีการนำสุนัขไปชำแหละ โดยพบว่า อยู่บริเวณชายป่าด้านหลังแคมป์ เเละระหว่างทางเดินก็ยังมีคราบเลือดของสุนัขที่โดนลากไปชำแหละ ส่วนจุดที่ชำแหละพบเชือกที่ใช้ผูกคอสุนัข กองไฟร่องรอยการเผาเขา และใบตองที่ใช้รองระหว่างการชำแหละแยกชิ้นส่วน แต่ไม่พบชิ้นส่วนหรือเศษซากของสุนัขเหลืออยู่

นางนลิน หรือ ป้าลิน เล่าว่า เมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ ตนได้ขับรถผ่านมาที่แคมป์ เพื่อนำอาหารมาเลี้ยงสุนัขจรจัดที่อยู่บริเวณแคมป์ที่ช่วยดูแลอยู่เป็นประจำ 7 ตัว และดูแลมานาน 3 ปี ระหว่างนั้นได้มีคนงานชาวเมียนมาร์วิ่งมาบอกว่า มีเพื่อนคนงานชาวเมียนมาร์ด้วยกันกำลังตีสุนัข และนำไปชำแหละที่ชายป่าด้านหลังแคมป์ เพราะ รับไม่ได้กับการกระทำของคนงานพม่ากลุ่มนี้

และหลังจากที่เดินทางรอยเลือดไปดูก็ต้องพบกับภาพที่สะเทือนใจ เพราะ มีคนงานชาวเมียนมาร์ 4-5 กำลังนั่งล้อมวงเตรียมชำแหละสุนัขที่นอนแน่นิ่งอยู่ โดยมีเชือกผูกคอเอาไว้ และจำได้แม่นว่า เป็นสุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน เพศเมีย สีน้ำตาล อายุประมาณ 2 ปี ซึ่งตนดูแลอยู่ จึงได้ร้องห้ามให้หยุดกระทำ แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะ คนงานพม่ากลุ่มนี้กำลังลงมือชำแหละสุนัขต่อไป ตนถึงกับร้องไห้ไม่กล้าดู และเดินกลับออกมา และรีบแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่อาสาช่วยหมาจรจัด บ้านหมายิ้ม ให้มาช่วยติดตามเรื่องนี้

นางนลิน ยังกล่าวอีกว่า รู้สึกหดหู่ใจกับเหตุการณ์นี้มาก ซึ่งจริงๆแล้วหากคนงานพม่ากลุ่มนี้ไม่มีเงินซื้อหมู ซื้อไก่ มากิน หากมาขอตน ตนก็พร้อมที่จะให้ แต่ไม่น่าทำกับสุนัขแบบนี้

ด้าน นายยี่สิ คนงานพม่าที่อยู่ในแคมป์เดียวกัน และเห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ บอกว่า ช่วงเกิดเหตุกำลังตอนป่วยอยู่ในแคมป์ และได้ยินเสียงเพื่อนคนงานเมียนมาร์ร้องเอะอะโวยวายห้ามปรามไม่ให้ฆ่าสุนัข พอออกมาดูก็พบว่า สุนัขถูกตีนอนตายอยู่แล้ว และมีกลุ่มคนงานพม่าลากไปหลังแคมป์ เพื่อชำแหละแยกชิ้นส่วนแจกจ่ายใส่ถุงนำไปย่าง และปรุงเป็นอาหาร เพราะ ในวันเกิดเหตุเป็นช่วงหยุดงาน และมีการตั้งวงดื่มเหล้ากันตั้งแต่ช่วงเช้า กับแกล้มจึงหมด เลยพากันไปฆ่าสุนัขมากินในช่วงเที่ยง ทั้งนี้คนงานเมียนมาร์ในแคมป์มีหลายกลุ่ม เเละส่วนใหญ่ไม่มีใครเห็นด้วยกับการกระทำของคนงานกลุ่มนี้ ซึ่งเพิ่งเข้ามาอยู่เพียง 2 วัน และไม่ได้สนิทกัน

ทางด้านข้อกฎหมายจากการสอบสวนไปยังตำรวจฝ่ายสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้สามารถที่จะดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ก่อเหตุได้ตาม พรบ.คุ้มครองสัตว์ เพราะ เป็นการทารุณกรรมสัตว์ ไม่จำเป็นว่าจะมีเจ้าของหรือไม่ แต่ต้องมีผู้มาแจ้งความ หรือนำหลักฐานมาร้องเรียนกับทางตำรวจ แต่หากไม่มีใครมาแจ้งความร้องทุกข์ ตำรวจก็ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานใดๆให้ปฏิบัติตามข้อฎหมายดังกล่าว