ครูถึงน้ำตาซึม อ่านจดหมายของดญ.วัย 14 แจ้งเหตุที่มาโรงเรียนสายทุกวัน

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 18 ส.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัว ด.ญ.อารีวรรณ ศรีสุขดี อายุ 14 ปี หรือน้องเมย์ นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนเทศบาลวัดธรรมิการาม(ปิยะแหวนรังสรรค์) ที่มีฐานะยากจน เก็บของเก่าขาย ค้างจ่ายค่าเช่าบ้าน และมักมาโรงเรียนสายเพราะช่วยพ่อ-แม่เก็บขยะของเก่าแล้วคัดแยกก่อนมาโรงเรียน โดยน้องเมย์ได้เขียนจดหมายชี้แจงเหตุผลที่มาโรงเรียนสาย พร้อมขอให้ครูช่วยหางานให้ทำมีรายได้ช่วยพ่อ-แม่และส่งตัวเองเรียน ทำให้ถึงขั้นน้ำตาตกในจนไม่กล้าดุเหตุที่มาโรงเรียนสาย

หลังได้รับแจ้งจากทางโรงเรียน พ.อ.กรกานต์ นาเวชวนิชกุล รองผอ.รมน.จังหวัดประจวบฯ นายกิตติกรณ์ เทพอยู่อำนวย หน.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายอุทัย ขันทอง หน.ฝ่ายยุทธศาสตร์ฯ และจนท.อาสาสมัครกู้ชีพ-กู้ภัย ปภ.ประจำจังหวัดประจวบฯ เดินทางไปที่บ้านเช่าเลขที่ 95/22 ซ.ประจวบแมนชั่น ต.เกาะหลัก พบน้องเมย์อยู่กับ น.ส.นภาลัย ศรีสุขดี อายุ 43 ปี แม่ซึ่งมีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว ทำงานหนักไม่ได้ นายวรการ วงค์จงรักษ์ อายุ 52 ปี พ่อ และด.ญ.นภวรร์ ศรีสุขดี อายุ 7 ขวบ น้องสาว

ทั้งครอบครัวมีอาชีพรับจ้างทั่วไป และเก็บของเก่าขายเป็นอาชีพหลัก โดยสภาพบ้านเป็นห้องเช่าขนาดเล็กบ้านปูนชั้นเดียว ภายในบ้านมีแต่ขยะและของเก่าจำนวนมากกองอยู่จนเต็มบ้าน และล้นออกมานอกตัวบ้านจนแทบไม่มีที่นั่ง และให้ทำการบ้านของเด็กวัยเรียนเพื่อพบปะกับผู้ปกครองและเด็ก เบื้องต้นได้นำโครงการเรามาช่วยกันเปลี่ยนแปลงประเทศของเราให้ความช่วยเหลือ มอบเครื่องอุปโภค-บริโภค อุปกรณ์ยังชีพ อาทิ ข้าวสาร ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมันพืช และทุนการศึกษาจำนวน 1,000 บาท

น้องเมย์ เล่าว่า ตนอยากมีบ้านพักเป็นของตนเอง เพราะรายได้จากการเก็บของเก่าขายไม่พอใช้จ่ายในการเรียนหนังสือ และจ่ายค่าเช่าบ้านจนต้องค้างค่าเช่าบ้านทุกเดือน อยากเรียนให้จบสูงๆจนสามารถทำงานเลี้ยงดูพ่อ-แม่ได้ และมีความใฝ่ฝันอยากเป็นเชฟปรุงอาหาร เพราะชื่นชอบ ซึ่งรายได้ในปัจจุบันจากการเก็บของเก่าขายมีน้อย บางวันถ้าฝนตก ไม่ได้ออกหาของเก่าก็จะไม่มีรายได้ โดยในทุกๆวันหลังเลิกเรียนก็จะออกไปช่วยพ่อ-กับแม่หาของเก่าแล้วกลับมาคัดแยกในบ้าน หรือที่บริเวณศาลาหน้าเทศบาลจนถึง 4 ทุ่ม บางวันถ้ามีการบ้านก็จะนอนดึกสุดถึงเที่ยงคืน หลังจากนั้นจึงให้พ่อกับแม่นำของเก่าไปขายช่วงเที่ยงและบ่ายของแต่ละวัน จึงอยากได้รับการช่วยเหลือเกี่ยวกับบ้านที่พักอาศัยและความเป็นอยู่ในบ้าน

น.ส.สุรีย์รัตน์ มาหนูพันธ์ หรือครูแหม่ม ครูประจำชั้น ม.2 เปิดเผยว่า น้องเมย์เป็นเด็กนักเรียนที่มีผลการเรียนดี มีความขยัน แต่มาโรงเรียนสายเกือบทุกวันจนตนเคยดุอยู่บ่อยครั้ง แต่ต่อมาภายหลังได้รับจดหมายน้อยจากน้องเมย์ เล่าถึงเหตุผลสาเหตุที่มาโรงเรียนสายพร้อมขอให้ครูช่วยหางานให้ทำ แล้วได้ตรวจสอบถึงกับน้ำตาซึมเพราะความสงสาร จึงเลิกดุและพยายามหาทางช่วยเหลือเยียวยาเพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น จึงได้ประสานขอให้หาทางช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง ซึ่งในโรงเรียนยังมีเด็กที่มีปัญหาลักษณะคล้ายคลึงกันอีกจำนวนมากแต่เกินกำลังครูที่จะช่วยเหลือได้หมด

ที่มา ข่าวสดออนไลน์