ไปรษณีย์ไทย อัพเกรดตู้ไปรษณีย์สีแดง แปลงร่างเป็นตู้อัจฉริยะ ไม่ใช่แค่ส่งจดหมาย

เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สำนักงานใหญ่ ถนนแจ้งวัฒนะ พล.อ.สาธิต พิธรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยในโอกาสก้าวสู่ 15 ปี ของ ปณท. และ 134 ปี กิจการไปรษณีย์ไทย ว่า ได้เดินหน้าปรับตัวและยกระดับสู่ “ไปรษณีย์ 4.0” เริ่มนำร่องด้วยการปรับปรุงตู้ไปรษณีย์สีแดง สำหรับส่งจดหมายที่มีอยู่ทั่วประเทศ ให้เป็นนวัตกรรมตู้ไปรษณีย์อัจฉริยะในยุค 4.0 ภายใต้ชื่อ “พี่ตู้รู้ทุกเรื่อง” ที่ปรับใหม่ให้มีสีสันสดใส และเปลี่ยนตู้ไปรษณีย์ธรรมดาให้สามารถให้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงได้เพียงสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อเป็นการส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยว และผู้ประกอบการรายย่อยในชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นให้มีการไหลเวียนมากขึ้น

ปัจจุบันนำร่องติดตั้งตู้ดังกล่าวในจังหวัดพิษณุโลก จำนวนทั้งสิ้น 15 ตู้ กระจายไปทุกอำเภอในจังหวัด และสามารถให้บริการได้แล้ว พร้อมกันนี้มีแผนจะขยายไปพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ ทั้ง 76 จังหวัดภายในปีนี้ ซึ่งจะเน้นในเขตพื้นที่ท่องเที่ยว และหากไม่ทันภายในปีนี้จะต้องให้แล้วเสร็จในปีหน้า โดยกรุงเทพฯ จะเป็นเฟสสุดท้ายที่จะเปิดให้บริการ เพราะอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ซึ่งฐานข้อมูลที่ใช้จะมาจากพนักงานไปรษณีย์ในท้องถิ่นที่มีความรู้และรู้จักในแต่ละท้องถิ่นดี

 

การปรับดังกล่าวเป็นการปรับตู้ไปรษณีย์แดงที่ตั้งอยู่กับที่ และทำได้แค่ส่งจดหมาย ให้เป็นตู้ไปรษณีย์อัจฉริยะที่มีประโยชน์ต่อประชาชน ชุมนุมท้องถิ่น และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนได้ ตลอดจนยังเป็นสีสันใหม่ๆ ให้กับพื้นที่ การเข้าไปมีส่วนร่วมกับประชาชนในการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และยังเป็นนวัตกรรมของไทยเอง

การปรับครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับปัจจุบันมีคนส่งจดหมายน้อยลง แม้ว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาการส่งจดหมายจะเติบโตในอัตราลดลงในส่วนของจดหมายธรรมดา แต่ยอดจดหมายลงทะเบียน หรือแบบอีเอ็มเอส มีอัตราเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะความต้องการในตลาดยังมีในภาคธุรกิจ การส่งใบแจ้งยอดต่างๆ และการส่งจดหมายแจ้งโปรโมชั่นต่างๆ ของห้างสรรพสินค้า รวมถึงเอกสารลงทะเบียนทางธุรกิจ

 

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันมีการส่งจดหมายและพัสดุที่อยู่ในเส้นทางไปรษณีย์จำนวน 8 ล้านชิ้นต่อวัน ถือเป็นอัตราเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยเฉพาะอัตราการส่งพัสดุที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่อัตราการส่งจดหมายเติบโตในอัตราลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างจากเดิมการส่งจดหมายที่เคยเติบโต 7-8% ตอนนี้อาจจะเติบโต 5-6% แต่ถือว่ายังเติบโตอยู่ และเชื่อว่าการส่งจดหมายของไทยจะยังมีอยู่ เพราะยังเป็นสิ่งจำเป็นและความสำคัญ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจ

 

พล.อ.สาธิต กล่าวว่า จากนี้ ปณท จะมุ่งปรับตัวและยกระดับสู่ “ไปรษณีย์ 4.0” ให้ได้ตามแผนด้วยการยกมาตรฐาน ทันสมัย พึงพอใจลูกค้า ให้เสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2562 เน้นการทำงานที่มีมาตรฐานด้วยการควบคุมดูแลอย่างทั่วถึง เพื่อส่งต่อบริการและภาพลักษณ์ที่ดีสู่ภายนอก สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทย มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทยด้วยการผลักดันเศรษฐกิจฐานราก ผ่านการใช้จุดแข็งด้านเครือข่ายของไปรษณีย์ ที่มีที่ทำการไปรษณีย์กว่า 1,300 แห่งทั่วประเทศ น้อมนำแนวพระราชดำริ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ประยุกต์ใช้เพื่อผลักดันสังคม และชุมชน กระตุ้นการหมุนเวียนของเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น และยกระดับอีคอมเมิร์ซระดับชุมชนให้มีประสิทธิภาพ ได้รับมาตรฐาน มีตลาดรองรับที่กว้างขวาง