เผยแพร่ |
---|
เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งข้อมูลจากผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่ง ร้องเรียน หลังจากที่ได้ประสบเหตุการณ์ขณะพาครอบครัวไปกินอาหารทะเลที่ร้านแห่งหนึ่งบริเวณชายหาดราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต โดยระบุข้อความว่า “พาครอบครัวไปกินอาหารทะเลแถวหาดราไวย์ ชื่อย่อว่า ร้าน ม. ซึ่งร้านนี้ทำอาหารทะเล หรือว่าซีฟู๊ด อร่อยมากจัดว่าเด็ด แต่แฟนผมจะไปซื้ออาหารทะเลเช่น กุ้ง ปลา หอย ต่างๆ ที่หน้าร้านต่างๆหน้าหาด แล้วนำมาให้ทางร้านปรุง แล้วทางร้านจะคิดค่าทำอาหารต่างหาก แต่ประเด็น มันอยู่ตรงตอนที่ซื้ออาหารทะเลสดจากแผงขายของทะเล ซึ่งซื้อ หอย หวาน ในราคากิโลกรัม ละ 120 บาท จึงตกลงซื้อ 1 กิโลกรัม เอามาให้ทางร้านปรุงได้เมนู หอยหวานผัดพริกเผา แต่รับประทานคำแรกถึงกับต้องหยุดเคี้ยวทันทีเมื่อได้กัดก้อนหิน จนฟันแทบหลุดเหลือบตาดูในอาหารจานนั้น หิน ประมาณ 10 กว่า ก้อน คำถามคือมาได้งัย ใครพอมีความรู้เรื่อง การคุ้มครองผู้บริโภค ช่วยแนะนำบ้างครับ ไม่น่าให้มีเหตุการณ์กับการซื้อขายแบบโกงกิโลน้ำหนักหอย ได้ไม่กี่ตัวแต่ บวกน้ำหนักหินมาด้วย 1 กิโลกรัม พอดี ขอบคุณครับ”
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามยังผู้ ทราบชื่อภายหลังคือ นายกิตติพล ชื่นสีนวล อายุ 39 ปี ชาว อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ระบุว่าเมื่อเวลาประมาณ 12.40 น.วันนี้ ตนเองได้พาครอบครัวไปรับประทานอาหารที่หาดราไวย์ โดยได้เลือกซื้ออาหารทะเลสดๆจากแผงหน้าหาด โดยมีแม่ค้าหญิงสาวเป็นผู้ขายให้ โดยเลือกซื้อหอยหวาน 1 กิโลกรัม ในราคา 120 บาท ซึ่งตนเองก็ไม่ได้มองในถุงอย่างละเอียด แต่ก็รู้สึกว่าน้อยผิดปกติ และก็ได้เลือกซื้อของสดอย่างอื่นก่อนเดินข้ามถนนไปยังร้านชื่อย่ออักษร ม. เพื่อให้ที่ร้านปรุงให้ ซึ่งจะเสียค่าปรุงอาหารตามแต่ละเมนู โดยให้ทำเมนูหอยหวานผัดพริกเผา แต่เมื่ออาหารปรุงเสร็จนำมาเสิร์ฟ และเริ่มรับประทาน ตนก็พบเข้ากับก้อนหินขนาดใหญ่จากนั้นก็เขี่ยดูก็พบว่าในจานหอยมีก้อนหินปะปนอยู่จำนวนมาก รวมๆแล้วมีประมาณ 15 -16 ก้อน โดยปะปนอยู่กับหอยหวานทั้งหมดแค่ประมาณ 30 – 40 ตัว ซึ่งหินแต่ละก้อนมีขนาดเท่าตัวหอยหวาน คือประมาณหัวแม่มือ จึงคิดว่าไม่ใช้ความบังเอิญแต่เป็นความจงใจใส่เพื่อถ่วงน้ำหนัก
“เรื่องนี้รู้สึกเสียความรู้สึกเป็นอย่างยิ่ง ทั้งเสียความรู้สึกต่อแผงที่ขายหอย ว่าทำไมถึงต้องใช้หินถ่วงน้ำหนัก จงใจหลอกผู้ซื้อ ซึ่งคิดดูว่ามีนักท่องเที่ยวชาวจีนและยุโรปจำนวนมากที่มาซื้ออาหารทะเลสดจากแผงแห่งนี้ในแต่ละวัน ซึ่งคนเหล่านั้นอาจจะเจอเข้ากับเหตุการณ์เช่นเดียวกับที่ตนเองเจอ และจะพูดถึงในด้านลบต่ออาหารทะเลราไวย์และภูเก็ตแค่ไหน
อีกส่วนคือ เสียความรู้สึกกับร้านอาหารชื่อย่อ ม.ซึ่งตนเองไว้วางใจให้ปรุงอาหารให้ แต่กลับไม่เหลียวแลเรื่องสุขอนามัย คือไม่ล้างหอยวัตถุดิบให้ เพราะหากมีการล้างทำความสะอาดก็จะต้องเห็นว่ามีหินจำนวนมากปะปนอยู่ และคงไม่ปล่อยให้ตกหล่นมาถึงจานของลูกค้าอย่างแน่นอน”
อย่างไรก็ตาม ได้นำเรื่องราวมาเปิดเผยเพื่อให้ช่วยตรวจสอบ พร้อมทั้งฝากเตือนไปถึงร้านแผงอาหารทะเลสดให้ค้าขายด้วยความซื่อตรง อย่าเห็นแก่ตัวจะทำลายชื่อเสียงของชาวราไวย์และคนภูเก็ต ขณะที่ร้านอาหารตัวย่อม.ก็ขอให้ช่วยเพิ่มความสะอาดและสุขอนามัยให้ลูกค้า ด้วยการล้างทำความสะอาดและช่วยตรวจสอบสิ่งแปลกปลอมให้ลูกค้าด้วย ไม่เช่นนั้นทางร้านก็จะพลอยเสื่อมเสียชื่อเสียงไปด้วย