ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
สำนักงานชลประทานที่ 12 ออกหนังสือเตือนด่วนถึง 7 จังหวัด โดยเฉพาะอยุธยา ว่าต้องเร่งปล่อยน้ำเพิ่มลงเจ้าพระยา เพราะมวลน้ำเหนือไหลหลากเดินทางมาถึงปากน้ำโพแล้ว
เวลา 19.00 น. วันที่ 10 สิงหาคม 60 นายโบว์แดง ทาแก้ว ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ล่าสุดนายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 ได้ออกหนังสือแจ้งเตือนไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 7 แห่ง ประกอบด้วย จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี ว่าเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท จำเป็นต้องเร่งพร่องน้ำลงท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น นับจากนี้เป็นต้นไป เพราะว่ามวลน้ำเหนือที่ไหลมาตามแม่น้ำปิง วัง ยม และน่าน ได้มารวมกันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านจังหวัดนครสวรรค์ ที่ 1,699 ลบ.ม./วินาทีแล้ว
ทางเขื่อนเจ้าพระยา จำเป็นต้องบริหารจัดการน้ำเหนือหลาก เพื่อผลักดันลงสู่ทะเล ผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา และจะพยายามทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยปัจจุบันได้ระบายน้ำลงท้ายเขื่อนที่ 1,267 ลบ.ม./วินาที และจะต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้นไปอีกในช่วงนี้ แต่จะพยายามระบายไม่ให้เกิน 1,500 ลบ.ม./วินาที ดังนั้นจึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานกรมชลประทานในรายชื่อจังหวัดดังกล่าว ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย ให้ระมัดระวังและเตรียมความพร้อม
อย่างไรก็ตามมีรายงานจากท้องถิ่นต่าง ๆ ในเขตอำเภอบางบาลว่า น้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท จะไหลและเดินทางมาถึงอำเภอบางบาล ที่ระยะเวลา 24 ชั่วโมงเท่านั้น และการเร่งระบายน้ำในครั้งนี้ จะเป็นการท่วมรอบที่ 3 ในช่วงเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา