กรมประมงตั้งค่าหัวปลาหมอสีคางดำโทษฐานทำลายสัตว์พื้นถิ่น เตรียมคลอดกฎหมายปิดบัญชี

จากกรณีพบปลาหมอสีคางดำแพร่กระจายพันธุ์ในบ่อเลี้ยงของเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาและกุ้งในพื้นที่ จ.เพชรบุรี และ จ.สมุทรสงคราม สร้างความเสียหายเป็นอย่างมากให้กับผู้เลี้ยงปลาและกุ้ง ล่าสุดกรมประมง จัดวาระการประชุมเร่งด่วน เพื่อกำหนดนโยบายในการแก้ไขทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อหยุดวงจรการแพร่ระบาดของปลาสายพันธุ์นี้ไม่ให้ไปทำลายสัตว์น้ำพื้นถิ่นของประเทศ

นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ปลาหมอสีคางดำเป็นสัตว์น้ำต่างถิ่นครอบครัวเดียวกับปลาหมอสีและปลาหมอเทศ จัดเป็นปลาที่กินอาหารเก่ง โดยกินได้ทั้งแพลงก์ตอนพืช และลูกกุ้ง ลูกปลาที่มีขนาดเล็กๆ รวมทั้งมีความสามารถแพร่ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อมีการแพร่ระบาดจึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อสัตว์น้ำพื้นถิ่นรวมถึงบ่อเลี้ยงของเกษตรกร

จากการสำรวจปริมาณปลาหมอสีคางดำในแหล่งน้ำสาธารณะยังพบปริมาณน้อยส่วนมาก จะพบในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ เนื่องจากวิถีชีวิตของเกษตรกรจะใช้วิธีเปิดน้ำเข้าบ่อเลี้ยงของตนเพื่อรับลูกพันธุ์จากธรรมชาติโดยไม่ใช้ถุงกรองส่งผลทำให้ปลาชนิดดังกล่าวหลุดรอดเข้าไปแพร่ขยายพันธุ์กินสัตว์น้ำขนาดเล็กและลูกสัตว์น้ำรุ่นอนุบาล ซึ่งหลังจากเกิดการระบาดกรมประมงได้จัดส่งทีมเจ้าหน้าที่กรมประมงลงพื้นที่สำรวจข้อมูลความเสียหาย และช่วยบรรเทาปัญหาในเบื้องต้นไปเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดกรมประมง จัดประชุมผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการประมง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดนโยบายในการช่วยเหลือทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยได้ข้อสรุปดังนี้

แนวทางระยะสั้นที่จะดำเนินการอย่างเร่งด่วน 1. กรมประมงเตรียมจัดโครงการกำจัดปลาหมอสีคางดำเพื่อลดปริมาณในธรรมชาติและบ่อเลี้ยง โดยภายใต้โครงการนี้จะมีการรับซื้อปลาชนิดนี้ในช่วงระยะเวลาจำกัด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนดเงื่อนไขและคำนวณราคารับซื้อให้เหมาะสมเพื่อจูงใจให้เกษตรกรและประชาชนจับมาขึ้นมาขาย ทั้งนี้ กรมประมง ขอความร่วมมือกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และประชาชนในพื้นที่ในการช่วยกันนำอวนไปลากจับปลาหมอสีคางดำขึ้นจากแหล่งน้ำธรรมชาติ

2. กรมประมงได้เตรียมปล่อยปลากะพงขาวลงแหล่งน้ำเพื่อตัดวงจรการแพร่ขยายพันธุ์ปลาหมอสีคางดำ 3. กรมประมง มีการประชาสัมพันธ์ให้จับปลาหมอสีคางดำไปแปรรูปเพื่อบริโภค เนื่องปลาชนิดนี้สามารถจับนำมาขึ้นมาแปรรูปรับประทานได้

สำหรับบทลงโทษถ้ามีการประกาศกฎหมายบังคับใช้หากพบผู้ใดกระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีที่ผู้กระทำผิดนำสัตว์น้ำไปปล่อยในที่จับสัตว์น้ำ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. กรมประมงมอบหมายให้ทางสำนักงานประมงจังหวัดทุกจังหวัดได้ประชาสัมพันธ์ถึงผลเสียจากการแพร่ระบาดของสัตว์น้ำต่างถิ่นที่รุกรานสัตว์น้ำพื้นถิ่นและรณรงค์ให้ประชาชนชาวไทยที่นิยมปล่อยปลาทำบุญเนื่องในโอกาสต่างๆ ให้หันมาปล่อยปลาสายพันธุ์ไทยแท้เพื่อช่วยรักษาสมดุลให้กับระบบนิเวศ

“หากใครที่เลี้ยงหรือครอบครองสัตว์น้ำต่างถิ่น และไม่ต้องการเลี้ยงอีกต่อไปแล้ว อย่านำไปปล่อยลงในแหล่งน้ำสาธารณะ ขอให้นำมามอบให้กับกรมประมง หรือสำนักงานประมงจังหวัดในพื้นที่ใกล้บ้านท่าน เพื่อรับไปดูแลต่อไป”