ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็น “ดีเอสไอ-ปปง.-ไปรษณีย์” สูญกว่า 5 ล้านบาท

เมื่อเวลา 11.00น. วันที่ 2 ส.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วยพ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.วิชัย สุวรรณประเสริฐ ผู้บัญชาการสำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นายมานพ ศรวิบูลย์ศักดิ์ รองกรรมการ ผจก.ใหญ่สายงานปฏิบัติการนครหลวง บจก.ไปรษณีย์ไทย ร่วมกันแถลงผลการสนธิกำลังร่วมทหารกองพล ร.5 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สภ.สะเดา ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงิน โดยสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาชาวมาเลเซียได้ 2 ราย พร้อมของกลาง เงินสด 497,100 บาท สมุดบัญชีธนาคาร 6 เล่ม บัตรกดเงินสด (เอทีเอ็ม) 8 ใบ โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และซิมการ์ดโทรศัพท์มือถืออีกหลาย 10 อัน รวม 8 คดี ความเสียหายประมาณ 5,235,000 บาท

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า สำหรับพฤติการณ์ของกลุ่มผู้กระทำความผิดจะใช้โทรศัพท์ผ่านทางระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ติดต่อกับผู้เสียหายโดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ โดยใช้อุบายหลอกเหยื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือจะถูกอายัดบัญชีเพื่อตรรจสอบธุรกรรมทางการเงิน จากนั้น จะให้ผู้เสียหายไปที่ตู้เอทีเอ็มแล้วก็ใส่รหัสกดเงิน โดยหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินไปให้โดยไม่รู้ตัว ที่ผ่านมา ดีเอสไอพยามแจ้งเตือนประชาชนและประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อปราบปรามมาตลอด โดยส่วนใหญ่ผู้ต้องหาจะเปิดเซิร์ฟเวอร์อยู่ที่ต่างประเทศ จึงต้องมีการประสานหลายหน่วยงานในการจับกุมในครั้งนี้

พ.ต.ท.ไพสิฐ กล่าวต่อว่า ขอฝากเตือนคนไทยที่ถูกหลอกให้ไปเปิดบัญชีเพื่อรับโอนเงินจากบัญชีของเหยื่อ ท่านอาจจะถูกจับในฐานะร่วมกันฉ้อโกง ฉะนั้นควรตรวจสอบก่อนว่ามีการทำธุรกรรมจริงหรือไม่ และในส่วนของประชาชนทั่วไปหากได้รับแจ้งว่ามีคดีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ก็ควรตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนว่ามีเอกสารอย่างเป็นทางการหรือไม่

ด้าน พ.ต.ท.วิชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา เราได้ข้อมูลว่ามีการแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าดีเอสไอหลอกเงินผู้เสียหายที่จ.ชลบุรี อ.บ่อวิน ได้เงินไปประมาณ 1.3 ล้านบาท จึงเป็นที่มาของการเข้าไปตรวจสอบจนพบข้อมูลว่าคนกลุ่มนี้อยู่ทางภาคใต้มีการเบิกถอนเงินที่จ.สงขลา และเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา จึงได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวคนร้ายเป็นชาวมาเลเซีย 1 คน ขณะกำลังกดเงินอยู่ที่ตู้เอทีเอ็มหน้าร้านสะดวกซื้อ ต.ด่านนอก อ.ด่านสะเดา จ.สงขลา

พ.ต.ท.วิชัย กล่าวต่อว่า จากนั้น ได้ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย เชื้อสายจีนได้อีก 1 ราย จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ยังมีผู้ร่วมขบวนการเป็นชาวมาเลเซียและชาวไทยอีกหลายคน โดยอาศัยอยู่ที่ประเทศมาเลเซียและเดินทางเข้าออกทั้งสองประเทศอยู่เป็นประจำ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ฉ้อโกง โดยแอบอ้างแสดงตนเป็นผู้อื่น หลังจากเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบส่วนขยายผลหาตัวผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป