สกลนครอ่วมน้ำท่วม! รถจมมิด-ปิดสนามบิน สั่ง 36 จังหวัด รับมือน้ำท่วม-ดินถล่ม

อุตุฯ เตือนยังมีฝนหนักทั่วประเทศถึง 30 ก.ค. ปภ.สั่ง 36 จว.รับมือท่วม น้ำป่าดินถล่ม สกลนครวิกฤต น้ำทะลักท่วมทั่วเมืองจมสนามบินสูงเป็นเมตร กว่าร้อยชีวิตร้องขอช่วยเหลือถูกน้ำล้อมรอบติดในโรงหนัง-หอพัก ขอนแก่นเร่งช่วยโรงเรียนเด็กตาบอดถูกน้ำป่าถล่มกลางดึก แม่น้ำยมทะลักจมสุโขทัย รัฐบาลระดมทุนช่วย “บิ๊กตู่”สั่งเร่งช่วยชาวบ้าน

อุตุฯชี้ยังมีฝนหนัก

เมื่อวันที่ 28 ก.ค. กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า สภาพอากาศในประเทศไทยยังได้รับอิทธิพลจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อ่อนกำลังลงจาก พายุดีเปรสชันเซินกา ปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาดว่าหย่อมความกดอากาศต่ำนี้จะปกคลุมบริเวณดังกล่าวอย่างต่อเนื่องและจะสลายตัวในวันนี้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่

สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงต่อไปอีก 1-2 วัน ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งไว้ด้วย โดยมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบตามภาคต่างๆ ดังนี้

ภาคเหนือ บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดชัยภูมิ เลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี ขอนแก่น สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ และมุกดาหาร ภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดปราจีนบุรี และชลบุรี

สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกระจายและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ปภ.สั่ง 36 จว.รับมือท่วม

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิด เผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ฝนร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรธรณี กรม ชลประทาน สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร พบว่า ในช่วงวันที่ 28-30 ก.ค.60 ทั่วทุกภาคของประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ จึงได้ประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด 36 จังหวัด เตรียมพร้อมรับมือ

แยกเป็น ภาคเหนือ 7 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง 5 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี และสระบุรี ภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 36 จังหวัดดังกล่าว ติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด ระมัดระวังอันตรายจากปริมาณฝนสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในระยะนี้ ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความ เดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยพิบัติสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย โทร.1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

5จว.ถนนจมมิดห้ามผ่าน

วันเดียวกัน นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวง เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยพิบัติและสถานการณ์ฉุกเฉินในเส้นทางสายหลัก ซึ่งจากการเกิดอุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา มีน้ำท่วมพื้นที่ 15 จังหวัด 40 สายทาง มีสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ 58 แห่ง การจราจรสามารถผ่านได้ 52 แห่ง ผ่านไม่ได้ 6 แห่ง รวม 5 จังหวัด จนต้องปิดถนน ดังนี้

1.ขอนแก่น ทางหลวงหมายเลข 2301 หินตั้ง-หนองสองห้อง ในพื้นที่ อ.หนองสองห้อง ช่วงก.ม.ที่ 25+800 ระดับน้ำสูง 560 ซ.ม. แนะนำใช้เส้นทางเลี่ยง ทางหลวงหมายเลข 23 ถ.แจ้งสนิท ต่อทางหลวงหมายเลข 2 ถ.มิตรภาพ หรือทางหลวงหมายเลข 2301 ที่ ก.ม.21+300 เลี่ยงไปถนนทางหลวงชนบท

2.มุกดาหาร ทางหลวงหมายเลข 2287 ดงหลวง-สานแว้ ในพื้นที่ อ.ดงหลวง ช่วง ก.ม.ที่ 18 ระดับน้ำสูง 120 ซ.ม. ไม่มีเส้นทางเลี่ยง และช่วง ก.ม.ที่ 20-22 ระดับน้ำสูง 120 ซ.ม. ไม่มีเส้นทางเลี่ยง 3.กาฬสินธุ์ ทางหลวงหมายเลข 227 กาฬสินธุ์-แยกดงแหลม ในพื้นที่ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ช่วง ก.ม.ที่ 4-5 ผิวทางและโครงสร้างทางชำรุดเสียหาย ระดับน้ำสูง 100 ซ.ม.

4.สกลนคร ทางหลวงหมายเลข 12 สี่แยกสมเด็จ-คำพอก ในพื้นที่ อ.ห้วยผึ้ง ช่วง ก.ม.ที่ 696 ทางเบี่ยงงานก่อสร้างสะพานขาด ไม่มีทางเลี่ยง 5.ลพบุรี ทางหลวงหมายเลข 2247 จงโก-ลำสมพุง ในพื้นที่ อ.ลำสนธิ ช่วง ก.ม.ที่ 2 ระดับน้ำสูง 60 ซ.ม. แนะนำใช้เส้นทางเลี่ยง ทางหลวงหมายเลข 2256 ที่ ก.ม.20 ไปทางหลวงหมายเลข 2243 ระยะทาง 22 ก.ม. บรรจบทางสาย 205 ที่ ก.ม.84+198

ขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการใช้เส้นทางเพิ่มขึ้น เพื่อความสะดวกและปลอดภัยของผู้ใช้ทาง หากต้องการสอบถามสภาพเส้นทางสภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อที่สายด่วนกรมทางหลวง โทร. 1586 (โทร.ฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)

“บิ๊กตู่”สั่งเร่งช่วยชาวบ้าน

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชื่นชมเจ้าหน้าที่ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่บูรณาการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ประสบภัยน้ำท่วมจากฝนที่ตกหนักเพราะอิทธิพลของพายุเซินกา โดยขอให้มุ่งเน้นเข้าไปยังจุดที่ได้รับผลกระทบหนัก เส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก เช่น ชุมชนบริเวณที่ลาดเชิงเขา ซึ่งเกิดน้ำป่าไหลหลากหรือดินถล่ม เป็นต้น

ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะสุโขทัย ลพบุรี และกาฬสินธุ์ นายกฯ ห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจึงให้ปภ.ร่วมกับทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมให้ความช่วยเหลือมุ่งเน้นการดูแลชีวิตความเป็น อยู่ ความปลอดภัย และการดำรงชีพของประชาชนเป็นหลัก ส่งกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยเข้าคลี่คลายสถานการณ์ อำนวยความสะดวกและให้บริการประชาชนในด้านต่างๆ ทั้งการขนย้ายสิ่งของ และการอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย

ที่พระลานพระราชวังดุสิต นายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงรัฐบาลเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากพายุเซินกา ผ่านกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า กองทุนดังกล่าวอยู่ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกฯ ว่าด้วยการช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ที่รัฐบาลมีมาตั้งแต่เหตุการณ์น้ำท่วมในเหตุการณ์ต่างๆ ตอนนี้กองทุนฯ มีเงินประมาณ 700 กว่า ล้านบาท

ทั้งนี้ การเปิดรับบริจาคเงินเข้ากองทุนฯจะเริ่มอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.นี้ โดยโอนเงินเข้าบัญชีชื่อ “กองทุนช่วยเหลือ ผู้ประสบสาธารณภัย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี” ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาทำเนียบรัฐบาล เลขที่บัญชี 067-0-06895-0

แม่น้ำยมทะลักจมสุโขทัย

วันเดียวกัน สถานการณ์แม่น้ำยมกัดเซาะลอดใต้พนังกั้นน้ำริมตลิ่งแม่น้ำยม บริเวณหลังวัดไทย ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสุโขทัยธานี เร่งนำบิ๊กแบ๊กและกระสอบทรายปิดจุดที่ถูกแม่น้ำยมกัดเซาะ พร้อมเร่งสูบน้ำที่เอ่อท่วมสูงในพื้นที่เศรษฐกิจเขตเทศบาลเมือง คาดต้องใช้เวลา 1 วัน สถานการณ์จะเป็นปกติ และระดับน้ำยังไหลบ่าท่วมถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีและรอบนอก

ขณะเดียวกันผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ต.วัดเกาะ อ.ศรีสำโรง แจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังสถานการณ์ ชาวบ้านจึงได้พากันเตรียมความพร้อมรับมือ รวมทั้งเร่งย้ายทรัพย์สินมีค่า สัตว์เลี้ยง นำไว้ในที่สูง และได้ก่อกำแพงปูนตรงประตูหน้าบ้าน-หลังบ้าน เพื่อป้องกัน น้ำไหลเข้าท่วมภายในตัวบ้านที่อยู่อาศัย

ส่วนสถานการณ์ที่ จ.พิจิตร นายวีระศักดิ์ วิจิตรแสงศรี ผวจ.พิจิตร เผยว่า เกิดน้ำท่วม 10อำเภอ ประกอบด้วย สามง่าม ทับคล้อ ดงเจริญ โพทะเล สากเหล็ก วังทรายพูน โพธิ์ประทับช้าง วชิรบารมี ตะพานหิน และเมือง รวม 24 ตำบล 105 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วม 404 หลัง นา ถูกน้ำท่วมจมน้ำ 14,818 ไร่ บ่อปลา 5 บ่อ ถนน 16 เส้นทาง สิ่งที่เป็นห่วงคือพายุลูกใหม่คือพายุ เนสาท ที่จะเข้ามา อีก 7 วันข้างหน้า จึงเร่งให้ ปภ.จังหวัดพิจิตร ทำหนังสือไปยัง 12 อำเภอ ส่งไปยัง อบต. กำนันผู้ใหญ่บ้าน แจ้งเตือนประชาชนรับมือ เนื่องจากแรงว่า พายุเซินกา 2 เท่า

ล่าสุดในพื้นที่ยังมีฝนตกหนัก รวมถึงน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ส่งผลให้แม่น้ำยมอ่อนล้านตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 100 หลังคาเรือน ในพื้นที่ 5 หมู่บ้าน ต.รังนก อ.สามง่าม และน้ำป่าจากเทือกเขาวังทอง อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ไหลบ่าลงมาตามลำคลองท่าหลวง อย่างรวดเร็วเพื่อไหลลงสู่แม่น้ำน่านกัดเซาะคอสะพานข้ามลำคลองท่าหลวง ถนนทางหลวงหมายเลข 115 สายสากเหล็ก-พิจิตร ช่วงบริเวณบ้านยางคอยเกลือ ต.ปากทาง อ.มืองพิจิตร ทำให้คอสะพานทรุด เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงพิจิตร นำป้ายห้ามรถบรรทุกหนักขนาด 6 ล้อขึ้นไปวิ่งผ่านโดย เด็ดขาด และให้ไปใช้ถนนเส้นทางบายพาสเลี่ยงเมืองแทน

วันเดียวกันเวลา 02.00 น. ทหาร มทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร์ และค่ายสีหราชเดโชไชย 50 นาย ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ นักเรียนและคณะครู ที่โรงเรียนการศึกษาพิเศษคนตาบอดขอนแก่น มูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ บ้านคำไฮ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น เนื่องจากรั้วโรงเรียนและพนังกั้นน้ำที่เป็นกระสอบทรายพังทลายลงมาอย่างรวดเร็วยาวกว่า 6 เมตร ทำให้น้ำจากภายนอกทะลักเข้าท่วมสูงถึงระดับหน้าอก ต้องอพยพนักเรียนชายกว่า 80 คนที่เรือนนอนชายชั้น 1 ขึ้นไปนอนชั้นที่ 2

สกลนครระทม

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สกลนคร ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน และเริ่มตกไม่หยุดตั้งแต่เวลา 23.00 น. วันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตตัวเมืองสกลนครที่อยู่ในที่ลุ่มติดกับหนองหาร มีแม่น้ำลำห้วยที่เป็นสาขาไหลลงหนองหารกว่า 10 สาขา จากเทือกเขาภูพานผ่านตัวเมือง ทำให้น้ำไหลไม่ทันเอ่อเข้าท่วมเขตเทศบาลนครสกลนครหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

บริเวณ 4 แยกตลาดสดบ้านธาตุ หน้า ม.ราชภัฏสกลนคร ถนนสายสกลนคร-อุดรธานี น้ำท่วมสูงกว่า 70 ซ.ม.บางช่วง รถยนต์จมน้ำหลายคัน นอกจากนั้นภายในโรงเรียนธาตุนารายณวิทยาน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ท่วมรถเจ้าหน้าที่และครูในโรงรถ นอกจากนั้นยังพบว่าบริเวณชุมชนธาตุดุม ที่อยู่ติดกับลำน้ำห้วยเดียก ไหลลงสู่หนองหาร น้ำที่ล้นจากอ่างห้วยเดียกลงมาจากเขาภูพาน เอ่อล้นลงมาท่วมไร่นาชาวบ้านบ้านเป็นวงกว้าง รวมทั้งถนน สายเข้าตัวเมืองสกลนคร ด้านห้างบิ๊กซี สูงกว่า 50 ซ.ม. นอกจากนี้มีโรงแรมบางแห่งน้ำทะลักเข้าท่วมห้องพักที่ชั้นล่างจนได้รับความเสียหาย

น้ำท่วมสนามบินสกลฯนับเมตร

นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เปิดเผยว่า ช่วงประมาณหลัง 10.00 น.ที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณรอบสนามบินสกลนครอย่างต่อเนื่องจนเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. น้ำท่วมแท็กซี่เวย์ หรือทางขับภายในเขตการทำการบินสูง 1 เมตร ทำให้เครื่องบินไม่สามารถทำการบินได้ โดยเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. กรมท่าอากาศยานประกาศปิดสนามบินเป็นเวลา 1 วัน ตั้งแต่เวลา 15.00 น. วันที่ 28 ก.ค.-เวลา 15.00 น. วันที่ 29 ก.ค. เพื่อรอดูสถานการณ์ฝนและน้ำต่อไป ตั้งแต่เปิดสนามบินมาไม่เคยมีปัญหาน้ำท่วมเลย ซึ่งในปี 2554 ที่มีปริมาณน้ำมากยังไม่ท่วม เพราะปัจจุบันสนามบินมีการ ติดตั้งระบบระบายน้ำไว้อย่างดี แต่ครั้งนี้ถือว่าเกินความคาดหมายมาก

ส่งผลกระทบทำให้สายการบินนกแอร์ต้องยกเลิก 2 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารตกค้างที่สนามบินรวม 55 คน ทย.ประสานเจ้าหน้าที่ทหารให้นำรถเข้าไปรับผู้โดยสารที่ตกค้างออกมาส่งภายในตัวเมืองทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม สายการบินเปิดให้ผู้โดยสารที่บินออกจากสนามบินสกลนคร และที่จะบินมายังสนามบินสกลนคร สามารถขอเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินหรือเลื่อนเที่ยวบินโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

เช่นเดียวกับสายการบินแอร์เอเชีย แจ้งไปยังผู้โดยสารที่จะทำการบินไปสกลนคร ให้สามารถเปลี่ยนจุดหมายปลายทางไปยังจังหวัดใกล้เคียงได้ แต่หากไม่ต้องการเปลี่ยนปลายทางสามารถขอเลื่อนตั๋วการเดินทางได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

วอนช่วยติดในโรงหนัง-หอพัก

ล่าสุด เฟซบุ๊ก “ข่าวสด” ได้รับแจ้งจากแฟนเพจที่ติดอยู่ในโรงภาพยนตร์เนวาด้า อ.เมือง จ.สกลนคร ระบุว่า ตอนนี้ในโรงหนังมีประชาชนทั้งผู้ใหญ่ คนแก่ และเด็กกว่า 30 ชีวิต ติดอยู่บนชั้น 2 ของโรงภาพยนตร์ วอนเจ้าหน้าที่เร่งเข้ามาช่วยเหลือโดยด่วน เพราะน้ำขึ้นสูงเรื่อยๆ และตอนนี้ขาดทั้งอาหารและน้ำดื่ม

นอกจากนั้นยังได้รับแจ้งจากแฟนเพจ ที่ติดอยู่ที่หอพักกรชนก เลขที่ 57/1 ม.11 ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร ว่า ขณะนี้ มีเด็กติดอยู่บนหอพักกว่า 20 คน วอนเจ้าหน้าที่เร่งเข้ามาช่วยเหลือโดยด่วน เพราะน้ำขึ้นสูงเรื่อยๆ และตอนนี้ขาดทั้งอาหารและน้ำดื่ม

ที่ จ.อำนาจเจริญ ตั้งแต่เช้าตรู่มีฝนตกลงมาอย่างหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมืองอำนาจเจริญ ถนนหลายสายเกิด น้ำท่วมขัง เช่น ถนนสายหลักอรุณประเสริฐ หน้าร.พ.อำนาจเจริญ ถนนชยางกูร หน้าทางเข้าสถานีขนส่งผู้โดยสาร และถนนทางเข้าชุมชนหลายแห่ง น้ำท่วมสูง 30-50 ซ.ม.

ส่วนที่ จ.กาฬสินธุ์ อ่างเก็บน้ำห้วยสีทน ซึ่งอยู่ด้านทิศเหนือ อ.เมือง เอ่อล้นเข้าท่วมทางหลวงหมายเลข 227 สายกาฬสินธุ์-สหัสขันธ์ ต้องปิดเส้นทางโดยใช้ทางเลี่ยงเส้นทางอ่างเก็บน้ำห้วยสีทนแทน โดยแขวงการทางนำป้ายเข้ามาติดตั้งเพื่อห้ามไม่ให้รถเล็กผ่าน เนื่องจากระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร และกระแสน้ำยังเชี่ยวกราก นอกจากนี้ถนนสายสมเด็จ-กุฉินารายณ์ ต้องหลีกเลี่ยงการเดินทางเนื่องจากน้ำท่วมระดับสูงไม่สามารถสัญจรได้แล้ว สถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ถือว่าหนักสุดในรอบ 10 ปี

ที่หอประชุมที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นศูนย์พักพิงช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัยของอำเภอกันทรลักษ์ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ร่วมกับสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ และสำนักงานพัฒนาชุมชน อ.กันทรลักษ์ เปิดโรงครัวจัดทำอาหารประทานเลี้ยงผู้ประสบภัยจำนวน 80 คน รวมทั้งประชาชนที่อยู่ในเขตเทศบาลและนอกเขตมารับอาหารจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังมีทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยมารับอาหารจากโรงครัวนำไปส่งมอบให้ประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้านต่างๆ ที่ประสบภัยน้ำท่วมด้วย

ระนองเก๋งฝ่าน้ำป่าถูกพัดหาย

ปริมาณน้ำฝนที่ตกต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำป่าทะลักและเอ่อล้นต้นแม่น้ำกระบุรี เข้าท่วม 3 หมู่บ้าน ชายแดน ต.ปากจั่น อ.กระบุรี ประกอบด้วยบ้านหาดจิก ม.5, บ้านคลองเงิน ม.7 และบ้านหลุมพอล่าง ม.10 ต.ปากจั่น บ้านเรือนกว่า 30 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมในระดับ 3-5 เมตร ชาวบ้านต้องไปอาศัยรวมกันอยู่บริเวณบ้านที่มีสองชั้นตั้งแต่เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา อบต.ปากจั่น และผู้ใหญ่บ้าน พร้อมหน่วยกู้ชีพ อปพร. เร่งให้ความช่วยเหลือแล้ว

วันเดียวกันน้ำป่าหลากท่วมผ่านถนน รพช. ระหว่างหมู่บ้าน เขตรอยต่อ ม.3 ต.ปากจั่น กับ ม.5 ต.จปร. พัดรถยนต์ฮอนด้าซิตี้ที่ขับฝ่าน้ำไป โดยไม่ฟังคำเตือนของชาวบ้านจมหายไปกับสายน้ำ โชคดีที่สองพี่น้องคนขับปีนกระจกประตูข้างออกมาได้ทัน ก่อนจะว่ายไปเกาะกับเสาเต็นท์ และน้ำซัดลอยไปติดหลังคาบ้าน ก่อนไปติดค้างอยู่บนต้นมะขามอีกต้น ล่าสุดทหารและจนท.อปพร. อบต. ปากจั่น ช่วยเหลือทั้งคู่ออกมาได้อย่างปลอดภัย

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์