ผู้เขียน | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
นางอภิรดี ตีนตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวระหว่างการลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์การซื้อขายปาล์มน้ำมัน จ.สุราษฎร์ธานี ในวันที่ 26 ก.ค. ว่า เดินทางร่วมกับนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) เพื่อติดตามสถานการณ์ดังกล่าว โดยกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกันจัดทำแผนบริหารจัดการสินค้าปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบ เพื่อรักษาเสถียรภาพสินค้า และรายได้เกษตรกร โดยได้นำเสนอต่อคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ มีนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ
โดยแผนงานดังกล่าวที่ได้หารือพบว่า มีปัญหาด้านความสามารถในการแข่งขัน ได้แก่ ต้นทุนการผลิต ผลผลิตต่อไร่ต่ำ และเปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำ ซึ่งจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้รับข้อมูลจากการแจ้งของผู้ประกอบการตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มส่วนใหญ่สกัดน้ำมันได้เปอร์เซ็นต์เฉลี่ยอยู่ที่ 16-17% แต่มีการทดสอบเปอร์เซ็นน้ำมันปาล์มที่สกัดในจังหวัดกระบี่ ได้เปอรฺเซ็นต์น้ำมันที่ 19.77% เพื่อใช้เป็นมาตรฐานในการรับซื้อต่อไป ซึ่งการเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมันกระทรวงเห็นว่า จะเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน
ทั้งด้านการผลิต ต้นทุนการผลิตสูง ผลผลิตต่อไร่ต่ำ วิจัยปรับปรุงพันธุ์ปาล์มน้ำมัน และส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ มีเป้าหมาย ปี 2560 จำนวน 91 แปลง ใน 11 จังหวัด การเพิ่มเปอร์เซ็นน้ำมัน การสร้างเครือข่ายทั้งระบบร่วมกันพัฒนาเปอร์เซ็นต์น้ำมัน การตัดปาล์มสุก และให้กำหนดมาตรฐานทะลายปาล์ม ลานเท และโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ซึ่งประเด็นต่างๆที่ผ่านมายังไม่มีกฎหมายบังคับ แต่ได้บรรจุอยู่ใน พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม อยู่ระหว่าง กษ. เสนอ ครม. ซึ่งคาดว่าจะผ่านเป็นกฎหมาย ด้านการตลาด ขาดอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เพราะราคาวัตถุดิบสูง ส่งผลให้ต้นทุนสูง
โดยจะร่วมมือกันและถือปฏิบัติ ดังนี้ 1. โรงงานอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะรับซื้อปาล์มทะลายที่มีคุณภาพ เพื่อให้สามารถสกัดน้ำมันปาล์มดิบได้อัตรา 18%
2. เกษตรกรจะตัดปาล์มทะลายสุก ก้านทะลายสั้น และขายปาล์มทะลายที่มีคุณภาพดีเท่านั้น 3. ลานเทปาล์มน้ำมัน จะรับซื้อปาล์มทะลายที่มีคุณภาพและไม่ทำลูกร่วง และส่งขายโรงงานภายใน 24 ชั่วโมง 4. ทุกฝ่ายจะปฏิบัติตามข้อกฎหมาย ระเบียบ ประกาศของทางราชการ ที่เกี่ยวกับการซื้อขายปาล์มน้ำมันโดยเคร่งครัด 5. ทุกฝ่ายจะปฏิบัติตามข้อตกลงโดยเร็วภายใน 30 วัน นับแต่วันลงนามในบันทึกข้อตกลงนี้