พริตตี้สาวโวย! บ้านย้อมแมวโครงการหรู อยู่ 9 เดือนปัญหาสารพัด ประกาศขายทั้งหมู่บ้าน

วันที่ 19 ก.ค. ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น กลุ่มผู้เสียหาย ที่ซื้อบ้านในโครงการหนึ่ง ย่าน ถ.เหล่านาดี ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น รวมตัวกันเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดังกล่าวเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากซื้อบ้านในโครงการดังกล่าวแล้วถูกย้อมแมวขาย โดยบ้านส่วนใหญ่เป็นลักษณะทาวน์โฮม ที่มีการติดป้ายประกาศขายจำนวนมาก และแต่ละหลังมีสภาพทรุดโทรม

น.ส.พิชญา ภาโนมัย หรือใบหลิว อายุ 25 ปี สาวพริตตี้ เจ้าของบ้านหนึ่งในผู้เเสียหาย กล่าวว่า ได้มีการประกาศขายบ้านหลังดังกล่าวเช่นกัน จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงก็พบว่ามีจุดที่ชำรุดเสียหายในหลายจุด บ้านหลังดังกล่าวซื้อมาจากน้ำพักน้ำแรง จากการทำงาน เพื่อให้ครอบครัวได้มาอาศัยอยู่รวมกัน โดยเลือกซื้อโครงการแห่งนี้ เป็นบ้านทาวว์โฮมสองชั้น 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ตกลงซื้อขายกันในราคาเกือบ 2 ล้านบาท หลังจากซื้อขายแล้วเสร็จ ทางบริษัทไม่มีการดูแลลูกค้าหลังการขาย จนถึงปัจจุบันรวม 9 เดือน ก็มีปัญหาเกิดขึ้นมาโดยตลอด

“เริ่มจากกลิ่นห้องน้ำ ชักโครกกดไม่ลง ฝนตกน้ำรั่วไหลซึมตามขอบหน้าต่าง หลังคาบ้าน อาบน้ำ น้ำท่วมห้องน้ำ แล้วยังไหลซึมตามพื้นบ้าน ส่งกลิ่นเหม็นอับไปทั้งบ้าน ปัญหาที่เกิดขึ้นแจ้งเจ้าของโครงการมาตลอด แต่เจ้าของโครงการไม่รับรู้และไม่เข้ามาดูแลหรือให้คำปรึกษาใดๆเลย จึงอยากให้ทางคสช.นั้นได้มาให้ความช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนในลักษณะเช่นนี้บ้าง” น.ส.พิชญากล่าว

ขณะที่น.ส.อุไร พรศิลปะกุล อายุ 40 ปี ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า บ้านทาวน์โฮมหลังนี้ซื้อด้วยเงินสดเกือบ 2 ล้านบาทและโอนกันเมื่อเดือน ม.ค. 2558 ที่ผ่านมา หากดูภายนอกบ้านนั้นสวยหรู อยู่แล้วมีความสุข แต่ไม่ใช่อย่างที่เห็นและเป็นอย่างที่คิด เพราะเจอปัญหาตั้งแต่เดือนแรก ทั้งผนังห้องบวม พื้นบ้านบวม บันไดพัง พื้นแตกไม่เรียบ ครอบครัวได้แจ้งทางเจ้าของโครงการ แต่ไม่มีการดูแลอย่างที่พูดคุยกันก่อนการซื้อขาย

“ตามช่างมาซ่อมก็ช้า จนต้องจ้างช่างจากภายนอกมาซ่อมเองหลายต่อหลายครั้ง จึงได้สอบถามเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกันซึ่งมีทั้งหมด 19 หลัง ก็ได้รับคำตอบว่าเดือดร้อนในลักษณะเดียวกันทั้งสิ้น ทั้งนี้ได้มีการหารือร่วมกันของบ้านทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบ ร่วมกันลงชื่อเข้าร้องเรียนที่สคบ.ขอนแก่น ร้องศูนย์รับเรื่อร้อทุกข์ คสช. และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้เจ้าของโครงการมารับผิดชอบ”