ประมงสกลนคร ผุดไอเดียเรียกปลาสวายเป็น “ปลาโอเมกา3” เพิ่มมูลค่าตลาดหลังคนไม่นิยม

ประมงจังหวัดสกลนคร แก้วิกฤตการบริโภคปลาสวาย หลังคนไทยไม่นิยม เหยียดราคาถูก มีกลิ่นคาว ชี้ปลาสวายมีโอเมกา 3 สูงกว่าปลาทะเลน้ำลึก เตรียมเรียกอีกชื่อเป็นปลาโอเมกา 3 ผลักดัน เกษตรกรเลี้ยงเพิ่มมูลค่าทางการการตลาด

ว่าที่ร้อยโท สมพร กุลบุญ ประมงจังหวัดสกลนคร เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าปลาสวายเป็นปลาที่มักไม่นิยมรับประทาน เนื่องจากด้วยนิสัยสายพันธุ์ของปลาดังกล่าวมักจะอาศัยอยู่ในน้ำขุ่น รวมไปถึงหากผู้บริโภคนำมาชำแหละไม่เป็นจะมีกลิ่นคาวมากเพราะปลาสวายมีเส้นกลิ่นคาวอยู่ข้างลำตัว จึงทำให้ประกอบอาหารแล้วจะมีกลิ่นคาว ประกอบกับราคาถูก มีราคารับซื้อกันอยู่ที่กิโลกรัมละ 30-35 บาท ผู้บริโภคจึงมองว่าเป็นปลาไม่อร่อย แต่ปลาสวายใครจะรู้ว่าเป็นปลาที่มีโอเมกา 3 สูงมาก สูงกว่าปลาทะเลน้ำลึก หากบริโภคแล้วจะมีผลดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก ดังนั้นประมงจังหวัดสกลนคร ได้รับมอบหมายจาก นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผวจ.สกลนคร ให้ดำเนินการ จะทำอย่างไรให้ปลาสวายซึ่งเปี่ยมไปด้วยโอเมกา 3 สามารถดึงดูดให้คนเห็นความสำคัญของปลาสวายแล้วหันมาบริโภคซึ่งจะเป็นผลดีต่อการทำงานของสมองและช่วยเพิ่มมูลค่าของปลาสวายให้มีราคามากขึ้น

ว่าที่ร้อยโท สมพร กุลบุญ ประมงจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า อันดับแรกต้องประชาสัมพันธ์ให้ปผู้บริโภคทราบว่าปลาสวายมีโอเมกา 3 ที่สูงมาก 2,570 มก. ต่อน้ำหนัก 100 ก.มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว พร้อมกับตั้งชื่อปลาสวายอีกชื่อเป็นปลาโอเมกา 3 เพื่อเรียกความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภค เปรียบเมือนต้นดอกลั่นทมที่ไม่มีใครปลูกในบ้าน พอเปลี่ยนชื่อเป็นลีลาวดี ปรากฏว่ามีคนนิยมปลูกจำนวนมากดังนั้นจึงไม่ต่างกันหากเราจะเรียก 2 ชื่อ จากปลาสวายเป็นปลาโอเมกา 3 สำหรับการเลี้ยงประมงจังหวัดสกลนคร จะส่งเสริมให้เกษตรกรทราบถึงวิธีเลี้ยง การจัดหาช่องทางจำหน่าย และการแปรรูป เช่น นำไปประกอบอาหารเป็นเมนู ลาบ ต้มแซ่บ ปลาแดดเดียว หมกปลา ลวกจิ้ม ปลาส้ม หรือดัดแปลงเป็นเมนูอื่น ให้ร้านอาหารนำไปประกอบอาหารสร้างกลไกทางตลาด เพื่อส่งเสริมให้คนไทยบริโภคปลาน้ำจืดที่มีประโยชน์สูง ราคาถูก และเป็นการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ที่สำคัญต้องส่งเสริมทุกโรงเรียนเลี้ยงให้เยาวชนบริโภคปลาในการพัฒนการทางสมองของนักเรียน