เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10 ก.ค.60 ที่ ศาลา 4 วัดธาตุทอง มีพิธีรดน้ำศพร็อกเกอร์หญิงชื่อดังของเมืองไทย แหวน-ฐิติมา สุตสุนทร ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเต้านมและลุกลามเข้ากระดูก ในวัย 54 ปี เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา สร้างความเสียใจให้กับครอบครัวและแฟนเพลงทั่วประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในศาลา 4 วัดธาตุทอง เต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีบุคคลในวงการบันเทิงเดินทางมาร่วมเข้าแถวรดน้ำศพอย่างคับคั่ง อาทิ บุษบา ดาวเรือง , ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา , เอส-วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย , ตู่-นันทิดา แก้วบัวสาย , อุ้ย-เกรียงไกร อุณหะนันท์ , ต้อย-เศรษฐา ศิระฉายา , ตุ๊ก-วิยะดา โกมารกุล ณ นคร , ปู-ปริศนา กล่ำพินิจ , แอม-เสาวลักษณ์ ลีละบุตร , ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง , อ้อม-สุนิสา สุขบุญสังข์ , แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ และแม่หน่อย-นวลนง จามิกรณ์ , มอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ , ติ๊ก ชีโร่, ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค ฯลฯ โดยมี ปุ๊-กรุงเกษม หรือ นายบรรเจิด กฤษณายุธ สามี และ ปันปัน-เต็มฟ้า กฤษณายุธ บุตรสาว วัย 22 ปี ที่มาคอยต้อนรับ

โดยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้โปรดให้เจ้าหน้าที่ อัญเชิญพวงมาลาประทานมาเพื่อไว้อาลัยแก่ร็อกเกอร์หญิงผู้ล่วงลับด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่าในช่วงเช้า ปันปัน-เต็มฟ้า ได้สวมชุดครุยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาถ่ายรูปกับมารดาผู้ล่วงลับ ก่อนเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ที่จะถึงเร็วๆนี้ ในช่วงการรดน้ำศพ ปันปัน บุตรสาว ได้เข้าไปหอมแก้มคุณแม่ด้วยความอาลัยรัก สร้างความเศร้าโศกให้ผู้มาร่วมงานเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีเพื่อนพ้องจากศิษย์เก่านิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศิษย์เก่าโรงเรียนสตรีวิทยา มาร่วมร้องเพลง “เรามีเรา” พร้อมกล่าวไว้อาลัยนักร้องชื่อดังผู้ล่วงลับเป็นครั้งสุดท้าย

หลังจากเสร็จสิ้นการรดน้ำศพและก่อนที่จะนำร่างของ แหวน-ฐิติมา บรรจุโลงศพ ปุ๊-กรุงเกษม และ ปันปัน เต็มฟ้า ได้เข้าไปรดน้ำศพเป็นลำดับสุดท้าย และปันปันได้ก้มลงกราบผู้เป็นแม่และจูบอำลาด้วยความอาลัยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการบรรจุลงหีบศพ

จากนั้น ปันปัน ได้ให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำตานองหน้าว่า “สภาพจิตใจตอนนี้พยายามจะเข้มแข็งให้มากที่สุด เพราะคุณพ่อเสียใจมาก ท่านอยู่กับคุณแม่มาตั้งแต่คุณแม่เรียนจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ปี 3 ตั้งแต่คุณแม่อายุ 19 พอคุณแม่เสีย คุณพ่อก็เสียใจจนทรุด ปันปันพยายามเข้มแข็งให้คุณพ่อเห็น ปันปันมีโอกาสได้ดูแลคุณแม่ตอนป่วย เรารู้ว่าคุณแม่จะไปในอีกไม่นาน ตั้งแต่เราไปเที่ยวฝรั่งเศส ตอนนั้นคุณแม่พาไปเพราะเป็นทริปสุดท้ายที่จะได้ไปด้วยกัน ตอนแรกคุณแม่ไม่ได้บอกอะไรมากเพราะไม่อยากให้ลูกเครียด พอไปถึงฝรั่งเศสคุณแม่บอกว่าตัวเองเป็นมะเร็งระยะลุกลามแล้ว เราก็ร้องไห้กันและพยายามใช้เวลาให้มีคุณค่าที่สุด กลับมาเราก็พยายามดูแลคุณแม่ให้ดีที่สุด เรื่องที่ท่านสั่งเสีย คือท่านเป็นห่วงปันปัน เพราะเป็นลูกคนเดียวทำอะไรไม่ค่อยเป็น ห่วงว่าจะดูแลคุณพ่อได้ไหม

ต่อจากนี้ไม่มีคุณแม่แล้ว เราก็คงตั้งใจทำงานช่วยคุณพ่อ เพราะคุณพ่ออายุจะ 80 ปีแล้ว และแม่ก็ได้ฝากฝังปันปันกับทางแกรมมี่ไว้ และอยากให้เราเรียนต่อปริญญาโท(ร้องไห้) คุณแม่คอยไปรับไปส่งตั้งแต่เรียนที่มาแตร์ แม่จะรับส่งตลอด แม้กระทั่งเรามาเรียนจุฬาฯ แม่ก็ยังขับรถไปรับไปส่ง ความสำเร็จทุกอย่างเกิดจากคุณแม่ ความจริงแล้วเรามีนัดถ่ายรูปชุดครุยในวันอาทิตย์ที่ 9 ก.ค. ที่ผ่านมา ปันปันก็ตั้งใจจะเอาชุดไปถ่ายกับคุณแม่ที่โรงพยาบาล แต่ไม่ทัน เลยเอาชุดมาถ่ายกับคุณแม่ที่นี่เมื่อช่วงเช้า ที่ปันปันเลือกเรียนที่จุฬาฯ เพราะคุณแม่ก็เรียนจุฬาฯ เห็นคุณแม่ถ่ายรูปกับคุณยาย เราก็อยากมีรูปนี้เหมือนกัน(ร้องไห้) ตอนที่คุณแม่ทราบว่าเราเรียนจบคุณแม่ดีใจมาก(ร้องไห้หนัก) และภูมิใจในตัวเรา ขอบคุณคุณแม่ที่ผลักดันและส่งเสริมให้ปันปันเรียนได้ดีขนาดนี้ค่ะ สิ่งที่จะสานฝันให้คุณแม่อยากให้เราทำในสิ่งที่ชอบ ไม่ว่าอะไรคุณแม่ก็สนับสนุนทุกอย่าง”

ปันปัน กล่าวต่อว่า สิ่งที่อยากจะบอกคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงเลย หนูโตขึ้นแล้ว อาจจะดูเด็กในสายตาคุณแม่ตลอดเวลา จะพยายามทำตัวให้โตขึ้น เรียนรู้ทุกอย่างแล้วก็ใช้ชีวิตต่อไปอย่างเข้มแข็งให้คุณแม่ภูมิใจ คุณแม่จะได้ไม่เป็นห่วง วันนี้ซึ้งใจจริงๆ ไม่คิดว่าจะมีคนรักคุณแม่มากขนาดนี้ แล้วพอได้รู้ถึงกำลังใจก็รู้สึกภูมิใจแทนคุณแม่ค่ะ ความจริงแล้วได้คุยกับคุณแม่ แม่ไม่อยากให้จัดเลยค่ะคอนเสิร์ตนี้ เพราะเกรงใจทุกคนแล้วก็พี่ๆ ศิลปินทุกคนยื่นมือเข้ามาช่วยต้องขอบคุณมากๆ ค่ะ”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าตัวอย่างของคุณแม่ที่นำมาใช้มีอะไรบ้าง ปันปัน ตอบว่า เป็นความอดทน คุณแม่เข้าจุฬาฯ ก็สู้มาตลอด ขึ้นรถเมล์ไปเรียน คุณแม่ลำบากมามาก จนมาเจอคุณพ่อที่จุฬาฯ ก็สู้ทำงานหนักจนมาเป็นนักร้อง รู้สึกว่าตนต้องสู้ ทำงานหนักให้เหมือนคุณแม่ ประสบความสำเร็จในอนาคตให้คุณแม่ภูมิใจ คุณแม่อยากให้เราสบายใจอนาคต

โดยจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพที่วัดธาตุทอง ในวันที่ 10-16 กรกฎาคม และมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 17 ก.ค. เวลา 18.00 น.

ด้าน แอม เสาวลักษณ์ นักร้องชื่อดัง เผยว่า “เรารู้จักกันมานามาก ร่วมงานกันหลายครั้งและสนิทสนมกัน พี่แหวนเป็นคนอารมณ์ดีและใจดีมาก เขาหัวเราะเสียงดัง ทำงานหนักไม่เคยบ่น แอมติดตามอาการป่วยของพี่แหวนมาตลอด ตอนทราบข่าวว่าพี่แหวนอาการทรุดก็ตกใจมาก ไม่คิดว่าในเมื่อพี่แหวนรักษาหายมาแล้ว แต่ที่ทรุดครั้งนี้เพราะเหนื่อย ถ้ารักษาสุขภาพก็คงจะดีขึ้น แต่เราเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก มาถึงจุดหนึ่งเราก็ไปเยี่ยมไม่ได้ ได้แต่เป็นกำลังใจให้อยู่ข้างนอก วินาทีที่ทราบข่าวพี่แหวนเสียชีวิต เราเองเป็นคนศึกษาธรรมะเข้าใจเรื่องการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เราเข้าใจกันอยู่แต่เราไม่ได้บรรลุอะไร รู้สึกใจหายและสงสารทางครอบครัว พี่แหวนไม่ใช่คนยอมแพ้กับโรคร้าย เขาตั้งใจที่จะมีชีวิตอยู่ สำหรับความรู้สึกของคนที่รักพี่แหวน เราคิดว่ามันไม่ยุติธรรม กับคนที่ต่อสู้มา เขามีกำลังใจที่ดีและอายุยังไม่มาก แต่ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามธรรมชาติ

พี่แหวนเหมือนมาเตือนสติเรา เชื่อว่าพี่แหวนรับรู้ว่าทุกคนรักพี่แหวนมากแค่ไหน เมื่อพี่แหวนยังอยู่ทุกคนรักพี่แหวน เมื่อพี่แหวนจากไปพี่แหวนก็ยังเป็นที่รักไม่น้อยกว่าเดิมและจะเป็นแบบนี้ตลอดไป”

ทั้งนี้ อ้อม-สุนิสา ดีเจ นักร้องชื่อดัง เผยว่า “พี่แหวนเป็นคนสู้ เขาไม่บอกทุกคนว่าเป็นอะไร เขาทำตัวปกติ ไม่เคยทำเหมือนคนป่วยให้เห็น แม่แหวนเป็นแม่ของปันปันที่รักลูกมาก อ้อมเชื่อว่าสิ่งที่น้าแหวนทำมันบอกอะไรพวกเรา ถ้าเราทำดีความดีก็อยู่กับเรา เราตายไปแค่ตัว แต่ความดียังอยู่ และความตายเป็นเรื่องที่ไม่เลือกอายุ ไม่ได้ไกลตัวอย่างที่คิด ทำให้เรากลับมาคิดว่าต้องไม่ประมาทกับชีวิต เราจะอยู่ยังไง เราอาจจะไม่ต้องที่รักของใครมากเท่าไหร่ แต่ต้องอยู่ยังไงไม่ให้คนอื่นต้องลำบากใจ วันนึงก็เป็นเรา”

สำหรับการสวดอภิธรรมในคืนแรก ได้มีบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และสมาคมศิษย์เก่านิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมกันเป็นเจ้าภาพ