เผยแพร่ |
---|
นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การประกาศลอยตัวราคาก๊าซแอลพีจี ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภค รวมทั้งราคาอาหารตามสั่งที่มักจะอ้างว่าขอปรับขึ้นราคาเพราะราคาก๊าซปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งต้องดูในความเป็นจริงเพราะว่าการลอยตัวไม่ได้หมายความว่าราคาจะปรับขึ้นเพราะการลอยตัวหมายถึงการให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาด แต่ราคาค้าปลีกทางกระทรวงพลังงานยังดูแลไม่ให้ปรับขึ้นจนกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนโดยทั่วไปเพราะหากพบว่าราคาค้าปลีกปรับขึ้น กระทรวงพลังงานจะนำเงินกองทุนพลังงานไปชดเชยให้ราคาอยู่ในระดับที่เหมาะสม
ดังนั้นประชาชนจึงไม่ควรตื่นตระหนกเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว เพราะไม่ใช้เรื่องใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น และพ่อค้าแม่ค้าก็ไม่ควรฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าโดยอ้างประเด็นดังกล่าว หากมีการร้องเรียนและตรวจพบจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เดิมภาครัฐจะคุมราคาก๊าซจากผู้นำเข้า และผู้ผลิตรายใหญ่ที่ขายส่งเช่น โรงแยกก๊าซแอลพีจี โรงกลั่นน้ำมัน แต่หลังจาก 1 ส.ค.เป็นต้นไป ภาครัฐจะไม่เข้าไปควบคุมราคาผู้ค้าส่งแล้ว แต่จะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด จะส่งผลดีทำให้ตลาดมีการแข่งขัน มีการทำตลาดเพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคใช้ก๊าซจากบริษัทของตนมากขึ้น
“กรมการค้าภายใน ติดตามราคาก๊าซธรรมชาติมาตลอด เพราะเป็นสินค้าที่ต้องควบคุม ดังนั้นไม่ต้องวิตกว่าราคาสินค้า อาหารจะแพงขึ้นเพราะมันอาจจะลดลงก็ได้ตามราคาตลาดโลก และเป็นผลดีต่อผู้บริโภคด้วยซ้ำ เพราะต่อไปอาจมีการนำเข้าก๊าซหรือผลิตเพิ่มมากขึ้น เพราะหากราคาแพงไปกระทรวงพลังงาน พร้อมจะชดเชยให้ผู้บริโภคไม่ได้รับผลกระทบ การลอยตัวจะเกิดขึ้นเฉพาะกับการค้าส่ง คือโรงกลั่น โรงแยกก๊าซ ไม่เกี่ยวกับการาคาปลีกที่แม้จะลอยตัวแต่ย้ำว่ากระทรวงพลังงานจะยังเข้ามาชดเชยราคาไม่ให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบ” นายสมศักดิ์ กล่าว