74ลูกค้ากระทะโคเรียคิง ฟ้องศาลแพ่งบ.นำเข้า-จัดจำหน่าย เรียกค่าเสียหาย 1,650 ล้าน

เมื่อที่30มิถุนายน ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พร้อมด้วยนายเฉลิมพงษ์ กลับดี หัวหน้าศูนย์ทนายความอาสามูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นางอรกัลยา พุ่มพึ่ง โจทก์ที่ 1 และนางกัลยทรรศน์ ติ้งหวัง โจทก์ที่ 2 รวมทั้งตัวแทนผู้บริโภคที่ซื้อกระทะโคเรียคิง รวม 74 ราย ได้ยื่นฟ้อง บริษัท วิซาร์ด โซลูชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายกระทะโคเรียคิง ซึ่งส่งมอบสินค้าที่มีคุณสมบัติไม่ตรงตามคำโฆษณา ต่อแผนกคดีคุ้มครองผู้บริโภคในศาลแพ่ง เรียกค่าเสียหายมากกว่า 1,650 ล้านบาท พร้อมทั้งยื่นขอดำเนินคดีฟ้องร้องแบบกลุ่มด้วย

น.ส.สารี อ๋องสมหวัง กล่าวว่า เป็นการละเมิดสิทธิผู้บริโภคครั้งสำคัญเป็นการใช้กฎหมายเพื่อสร้างบรรทัดฐานการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งชัดเจนว่าเป็นปัญหาการขายสินค้าหรือส่งมอบสินค้าที่ไม่เป็นไปตามการโฆษณาของบริษัทที่ขายกระทะโคเรียคิง คาดว่ามีผู้บริโภคที่เสียหายมากกว่า 500,000 คน หากพิจารณาจากตัวเลขการนำเข้ากระทะมาจำหน่ายไม่น้อยกว่า 1 ล้าน 3 หมื่นใบ หรือพิจารณาจากงบโฆษณาอันดับหนึ่งที่มากถึง 1,651 ล้านบาท ในปี 2559 แต่เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้ซื้อกระทะโคเรียคิงแต่ละรายไม่สูงมากนัก ผู้บริโภคจึงไม่คุ้มที่จะดำเนินคดีด้วยตนเอง ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้บริโภคและมีประสิทธิภาพในการดำเนินคดีมากกว่าการฟ้องคดีแต่ละรายของผู้บริโภค มูลนิธิฯจึงสนับสนุนการดำเนินการฟ้องคดีแบบกลุ่ม นอกจากนี้ยังไม่มั่นใจว่าบริษัทฯที่จำหน่ายกระทะโคเรียคิงจะปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการขายตรงและตลาดแบบตรงของ สคบ.เพียงใด ซึ่งหากชนะคดีจะสามารถคุ้มครองทุกคนที่ซื้อกระทะโคเรียคิงได้

นายเฉลิมพงษ์ กลับดี หัวหน้าศูนย์ทนายความอาสามูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า เรื่องนี้ สคบ.มีมติว่าบริษัทดังกล่าวโฆษณาผิดกฎหมายและสั่งเปรียบเทียบปรับสูงสุด 50,000 บาท เป็นความผิด 2 กรรม เป็นเงินทั้งสิ้น 100,000 บาท พร้อมให้โฆษณาแก้ไขและให้คืนเงินเฉพาะคนที่ได้ไปร้องเรียนแล้ว แต่ไม่ได้คืนเงินทุกคนที่ซื้อสินค้า ซึ่งการมาฟ้องต่อแผนกคดีคุ้มครองผู้บริโภคและขอดำเนินคดีฟ้องร้องแบบกลุ่ม จะช่วยรักษาสิทธิของผู้บริโภคทุกราย ที่ซื้อสินค้า เพราะถ้าศาลมีคำพิพากษาแล้ว ผู้บริโภคทุกคนก็จะได้รับการคุ้มครองเช่นเดียวกันหมด

นายสิษฐวัศ ภาคินสกุลพัฒน์ ทนายความผู้รับผิดชอบคดี กล่าวว่า การยื่นฟ้องวันนี้ เนื่องจากการจำหน่ายสินค้าไม่เป็นไปตามที่โฆษณาไว้ ซึ่งได้มีการตรวจพิสูจน์คุณสมบัติสินค้าของบริษัทแล้ว จากนักวิชาการและหน่วยงานราชการแล้ว ระบุว่าไม่ได้เป็นไปตามที่มีการโฆษณาขายสินค้า เป็นการโฆษณาที่ผิดกฎหมาย โดยแบ่งกลุ่มผู้บริโภคเป็น 2 กลุ่ม คือ ผู้ใช้กระทะรุ่นไดมอนด์ และผู้ใช้กระทะรุ่นโกลด์ โดยให้ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 9,653,400 บาท ให้กับผู้บริโภคจำนวน 74 ราย และไม่น้อยกว่า 1,650 ล้านบาท กับผู้บริโภคทุกคนที่ซื้อกระทะโคเรียคิง

ขณะที่นางอรกัลยา พุ่มพึ่ง ชาวจ.ปทุมธานี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ได้ซื้อกระทะยี่ห้อโคเรียคิง รุ่นไดมอนด์ ในราคา 3,900 บาท ที่ตัดสินใจซื้อเพราะชื่นชมพิธีกรที่พูดถึงคุณสมบัติของกระทะว่ามีคุณสมบัติพิเศษและยังมีของแถมอีกมากมาย ที่สำคัญในโฆษณาบอกว่ากระทะโคเรียคิงไม่ต้องใช้น้ำมันไม่ติดกระทะ แต่พอนำไปใช้ทอดปลา ทำอาหารจริง ปรากฏว่าต้องใช้น้ำมันอยู่ดี ไม่เหมือนกับที่บอกในโฆษณา ดังนั้นจึงเห็นว่าถูกเอาเปรียบก็ต้องรักษาสิทธิ และอยากรักษาสิทธิให้ผู้บริโภคคนอื่นๆด้วย

นางกัลยทรรศน์ ติ้งหวัง ชาวจ.สตูล ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า นั่งเครื่องบินมาฟ้องคดีนี้โดยเฉพาะ ซึ่งตนมีร้านขายอาหาร ปกติจึงไม่ค่อยได้ทำอาหารทานเองที่บ้าน และตัดสินใจซื้อกระทะโคเรียคิงหลังจากที่ได้เห็นโฆษณา เพื่อเอาไว้ใช้ทำอาหารเล็กๆน้อยๆ โดยซื้อมาในราคา 3,300 บาท แต่เมื่อปรากฎเป็นข่าวดังภายหลังว่า กระทะรุ่นนี้นำเข้ามาในราคาเพียง 289 บาท เห็นว่าเหมือนพวกเราโดนกระทำ เพราะตอนแรกโฆษณาบอกชัดเจนว่าราคาเต็ม 15,000 บาท ลดเหลือ 3,300 บาท ก็ดีใจคิดว่าเดิมกระทะราคาคงแพงแล้วซื้อสินค้าได้ในราคาถูก

เมื่อถามว่าจะฟ้องแพ่งกับพิธีกรที่โฆษณาขายกระทะโคเรียคิงหรือไม่น.ส.สารี อ๋องสมหวัง กล่าวว่า ไม่ได้ฟ้องพิธีกรแต่ฟ้องบริษัทที่จำหน่ายกระทะโคเรียคิงให้คืนเงินคืนกับประชาชนผู้บริโภค เพราะมองว่าเป็นการขายสินค้าที่ไม่เป็นไปตามที่โฆษณา

ต่อมาศาลรับไว้เป็นคดี ที่ผบ.3006/2560 และนัดไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีแบบกลุ่มวันที่ 25 กันยายน เวลา 13.00 น.