วันที่ 15 มิ.ย. เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ตึกสูงเกรนเฟล ทาวเวอร์ ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่ายอดผู้เสียชีวิตจากการพบศพยังอยู่ที่ 17 ราย บาดเจ็บ 34 คน ในจำนวนนี้ สาหัส 18 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยยุติการค้นหาผู้รอดชีวิตแล้ว และจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มมากขึ้นเมื่อการค้นหาร่างผู้เคราะห์ร้ายต้องดำเนินไปอย่างเหมาะสม

นายดานี ค็อตตอน ผู้บังคับการเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกรุงลอนดอน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยคาดว่าไม่น่าจะมีผู้รอดชีวิตหลงเหลืออยู่แล้ว และยอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีกเพราะมีการแจ้งยอดผู้สูญหายไว้จำนวนหนึ่ง รวมถึงครอบครัวหนึ่งที่หายไปทั้งครอบครัว หลังคาดว่ามีผู้ที่อยู่ในตึกขณะเกิดเพลิงไหม้หลายร้อยคนจากจำนวนผู้พักอาศัยราว 600 คน เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือไว้ได้ 65 คน

ด้านเว็บไซต์เทเลกราฟรายงานว่าเจ้าหน้าที่อาสาสมัครช่วยชีวิตเจ้าเหมียวสีเทาขาว จากเหตุเพลิงไหม้ครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในอังกฤษ ที่ตึกแกรนเฟล ทาวเวอร์ ที่อยู่อาศัย 27 ชั้น ในกรุงลอนดอน และส่งไปอยู่โบสถ์ชั่วคราว เพื่อรอเจ้านายที่พลัดหลงกัน

แม่มีชื่อว่า เปาโช พลัดพรากกับเจ้าของหลังเกิดไฟไหม้ อาสาสมัครพบเจ้าเหมียวเข้าและนำไปดูแลที่โบสถ์เซนต์คลีมองต์ บนถนนเทรดโกลด์ ซึ่งกลายเป็นที่ลี้ภัยชั่วคราว จึงลูบปลอบโยน

เจ้าหน้าที่เชื่อว่ายังมีสัตว์เลี้ยงจำนวนมากตายในกองเพลิง เพราะเจ้านายต่างหนีเอาชีวิตรอด เช่น นางเอสเธอร์ วัตส์ อายุ 50 ปีให้สัมภาษณ์เดอะการ์เดียนว่า ถูกปลุกให้ลงจากตึกทันที จึงเรียกลูกชายอายุ 12 ปีและคว้าอุ้มสุนัขมาได้ แต่มีแมว 3 ตัวที่ยังอยู่ในห้อง ได้แต่หวังว่ามันจะมีชีวิตอยู่

ส่วนการสอบสวนสาเหตุเพลิงไหม้จะต้องใช้เวลานานเพราะต้องเก็บรายละเอียดให้ครบทุกชั้น ขณะที่นางเธเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเยือนพื้นที่เกิดเหตุว่า จะให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนอย่างละเอียด

เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อมวลชนและนักวิชาการต่างตั้งคำถามถึงสาเหตุที่เพลิงลุกลามไปทั้งตึกได้อย่างรวดเร็วทั้งที่มีความสูงถึง 24 ชั้น และสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการตกแต่งอาคารใหม่ที่ทำเมื่อ 1-2 ปีก่อนหรือไม่

นายคริส คุก พิธีการรายการนิวส์ ไนต์ ทางช่องบีบีซี กล่าวว่า เกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ ผ่านการปรับปรุงโครงสร้างเมื่อปี 2558-2559 วัสดุหุ้มที่ใช้นั้นมีพลาสติกชนิดโพลีเอทิลีนเป็นแกนหลัก แทนที่จะเป็นวัสดุกันไฟซึ่งมีแกนหลักเป็นแร่ธาตุอื่น ซึ่งตึกที่ใช้วัสดุลักษณะนี้ล้วนเคยเกิดเพลิงไหม้มาแล้ว อาทิ ในฝรั่งเศส ออสเตรเลีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์