“ก.เกษตรฯ” เตรียมประกาศใช้เกณฑ์ใหม่คุมสหกรณ์

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นหลักเกณฑ์กำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยน ครอบคลุมความเสี่ยงทั้ง 4 ด้าน เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะนี้ได้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ใหม่และเตรียมประกาศใช้ ประกอบด้วย 1.การกำหนดอัตราจ่ายเงินปันผลตามหุ้นที่ชำระแล้ว สำหรับสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน เนื่องจากเห็นควรแก้ไขอัตราจ่ายเงินปันผลตามหุ้นที่ชำระแล้วของสหกรณ์ให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมกับให้สอดคล้องกับหลักการสหกรณ์ ที่ระบุว่าสมาชิกพึงได้รับผลตอบแทนจากเงินทุนอย่างจำกัด และเป็นการช่วย ลดแรงกดดัน ในการแสวงหาผลตอบแทนจากการลงทุน เพื่อนำมาแบ่งกัน โดยเห็นควรออกกฎกระทรวงกำหนดอัตราจ่ายเงินปันผลตามหุ้นที่ชำระแล้ว ไม่เกินอัตรา 10% ต่อปี แต่เมื่อคำนวณรวมกับเงินปันผล ที่จ่ายทั้งหมดแล้ว ต้องไม่เกิน 80% ของกำไรสุทธิที่เหลือ จากการจัดสรรเป็นทุนสำรองและค่าบำรุงสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย

2.กำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยเงินรับฝากของสหกรณ์ โดยเห็นชอบให้มีการทบทวนอัตราดอกเบี้ยเงินรับฝากอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และดำเนินการให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ที่ธนาคารพาณิชย์ ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินรับฝากประจำ โดยเฉลี่ยในอัตราไม่เกิน 1.5% ต่อปี แต่ยังมีหลายสหกรณ์ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินรับฝากไว้สูงกว่านี้มาก อันเป็นผลให้สหกรณ์มีต้นทุนทางการเงินที่สูงและไม่เป็นผลดีต่อการบริหารการเงินของสหกรณ์ จึงให้สหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนและชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์และชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน กำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินรับฝากในระเบียบว่าด้วยการรับฝากเงินทุกประเภทไม่เกิน 4.5% ต่อปี และให้ถือว่าระเบียบดังกล่าว ได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนสหกรณ์ และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินรับฝากแต่ละคราว ให้แจ้งนายทะเบียนสหกรณ์ทราบด้วย ซึ่งหลักเกณฑ์นี้ได้ให้เวลาสหกรณ์ปรับตัว เพื่อถือใช้และปฏิบัติตามเกณฑ์กำกับนี้เป็นเวลา 60 วัน

3.เห็นชอบให้สหกรณ์ใช้ระเบียบว่าด้วยการรับฝากเงินจากสหกรณ์อื่น โดยกำหนดให้สหกรณ์ผู้รับฝาก จะรับฝากเงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์หรือสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนใด ที่มีสินทรัพย์มากกว่า 5,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับเงินกู้จากสหกรณ์ดังกล่าว (หากมี) ต้องไม่เกิน 10% ของทุนเรือนหุ้น รวมกับทุนสำรองของสหกรณ์ผู้ฝากเงิน ซึ่งหลักเกณฑ์นี้ได้ให้เวลาสหกรณ์ปรับตัว เพื่อถือใช้และปฏิบัติตามเกณฑ์กำกับนี้เป็นเวลา 120 วัน และ 4.เห็นชอบให้สหกรณ์ใช้ระเบียบว่าด้วยการให้สหกรณ์อื่นกู้ยืมเงิน ซึ่งเป็นเกณฑ์การกำกับความเสี่ยงด้านเครดิตในการกำกับดูแลลูกหนี้รายใหญ่ โดยกำหนดให้สหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนขนาดใหญ่ ที่มีสินทรัพย์มากกว่า 5,000 ล้านบาท จะให้เงินกู้แก่สหกรณ์ใดสหกรณ์หนึ่ง ต้องไม่เกิน 10% ของทุนเรือนหุ้นรวมกับทุนสำรองของสหกรณ์ผู้ให้กู้ และเมื่อรวมหนี้ทุกรายของสหกรณ์ผู้ขอกู้แล้ว ต้องไม่เกินวงเงินกู้ยืมหรือค้ำประกันประจำปี ที่สหกรณ์ผู้ขอกู้ได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนสหกรณ์ ซึ่งหลักเกณฑ์นี้ได้ให้เวลาสหกรณ์ปรับตัว เพื่อถือใช้และปฏิบัติตามเกณฑ์กำกับนี้เป็นเวลา 120 วัน