ผู้เขียน | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
วันนี้ (1 มิ.ย.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่ สำนักงาน คปภ.ออกมาตรการสนับสนุนให้ประชาชนใช้รถใช้ถนนด้วยความปลอดภัย โดยปรับลดปริมาณแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ซึ่จากเดิมการขับขี่โดยบุคคลซึ่งในขณะขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดไม่น้อยกว่า (ตั้งแต่) 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แก้ไขเป็นบุคคลขณะขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้ถือว่า “เมาสุรา” เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2560 เป็นต้นไป นั้น สำนักงาน คปภ.ได้ประสานไปยังสมาคมประกันวินาศภัยไทยและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อสอบถามถึงปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้รับการยืนยันว่าทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมีความพร้อมในการปฏิบัติตามคำสั่งนายทะเบียนฯตามที่สำนักงาน คปภ. กำหนดแล้ว
“ผมได้สั่งการให้สำนักงานคปภ.ประสานไปยังสมาคมประกันวินาศภัยและบริษัทประกันวินาศภัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับการยืนยันว่ามีความพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งฯดังกล่าว เนื่องจากสำนักงานคปภ.ได้มีการออกคำสั่งนี้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2560 โดยให้มีผลบังคับวันที่ 1 มิถุนายน 2560 ทำให้มีระยะเวลาในการเตรียมตัวทั้งในเรื่องของเอกสาร เงื่อนไข ในกรมธรรม์ เพื่อรองรับคำสั่งนี้”
ดังนั้น ขอฝากเตือนผู้ใช้รถยนต์ควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการดื่มสุราระหว่างขับรถยนต์ เนื่องจากหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วตรวจพบว่า ผู้ขับรถยนต์ที่ทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะไม่ได้รับความคุ้มครองทั้งชีวิตและทรัพย์สินจากกรมธรรม์ประกันภัย แต่ในส่วนของผู้ประสบภัยหรือบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายจากรถยนต์คันที่เอาประกันภัยดังกล่าว ยังคงได้รับความคุ้มครอง โดยบริษัทประกันภัยของรถยนต์คันที่เอาประกันภัยฝ่ายผิดจะต้องให้ความคุ้มครองชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้ที่ได้รับความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินและจะไปไล่เบี้ยเรียกคืนค่าสินไหมทดแทนที่บริษัทจ่ายไปจากผู้ขับขี่ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ต่อไป ทั้งนี้ ปริมาณแอลกอฮอล์ดังกล่าว ไม่กระทบต่อความคุ้มครองของการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
พร้อมกันนี้ ยังสนับสนุนให้ประชาชนจัดทำประกันภัยรถยนต์ ตามเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ปลอดแอลกอฮอล์ โดยผู้เอาประกันภัยจะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจทุกประเภทเป็นส่วนลดอื่นในอัตราร้อยละ 10 ของเบี้ยประกันภัยสุทธิ เพียงแค่ผู้เอาประกันภัยแจ้งกับบริษัทที่รับประกันภัยว่าขอเพิ่มเติมสัญญาแนบท้ายตัวนี้เพื่อใช้เป็นหลักฐานว่าผู้เอาประกันภัยจะขับขี่รถยนต์โดยปลอดแอลกอฮอล์ก็จะได้รับส่วนลดทันทีร้อยละ 10 ซึ่งขณะนี้มี 10 บริษัทประกันภัยที่ได้รับความเห็นชอบแล้ว ประกอบด้วย เทเวศประกันภัย ทิพยประกันภัย สมโพธิ์ เจแปน นิปปอนโคอะ ประกันภัย ไทยศรีประกันภัย อาคเนย์ประกันภัย ไทยประกันภัย กรุงเทพประกันภัย ชับบ์สามัคคีประกันภัย เมืองไทยประกันภัย และประกันภัยไทยวิวัฒน์