ร้านค้าผวาถูกรีดภาษีเลี่ยงไม่ติดตั้งเครื่องอีดีซี -คลังสั่งสรรพากรเร่งทำความเข้าใจ หวั่นกระทบอีเพย์เมนต์

นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความกังวลของร้านค้ากับการติดตั้งเครื่องชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อีดีซี) ที่สรรพากรเข้าไปเก็บภาษี ซึ่งกรมรายงานไปยังกระทรวงการคลังแล้วว่า หากร้านค้าใดที่ติดตั้งเครื่องอีดีซีกรมจะพิจารณาคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นอันดับแรกๆ เพราะร้านค้ากลุ่มนี้แสดงความตั้งใจในการติดตั้งเครื่องอีดีซี ดังนั้น การหลบเลี่ยงภาษีของร้านค้าในกลุ่มนี้น้อยมาก

“ในการประเมินภาษีของกรมนั้นจะมีการตั้งเกณฑ์ความเสี่ยงในการประเมินของกลุ่มผู้เสียภาษีไว้ ดังนั้น ร้านค้าใดที่ไม่ติดตั้งเครื่องอีดีซีอาจมีความตั้งใจในการหลบเลี่ยงภาษี กรมจะถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงอาจต้องถูกตรวจสอบการเสียภาษีเป็นพิเศษ ถ้าร้านค้าใดที่ทำดีอยู่แล้วคงไม่ต้องมีความกังวลใดๆ เพราะการติดตั้งเครื่องอีดีซีเป็นการอำนวยความสะดวกร้านค้า ทำให้กรมคืนภาษีได้เร็วขึ้น” นายประสงค์กล่าว

นายประสงค์กล่าวว่า การติดตั้งเครื่องอีดีซีเป็นแผนหนึ่งในโครงการอีเพย์เมนต์ของรัฐบาล ต้องการให้ไทยลดการใช้เงินสดลง มีเป้าหมายติดตั้ง 5.6 แสนเครื่อง จะตั้งแล้วเสร็จเดือนมีนาคม 2561 ขณะนี้ดำเนินการติดตั้งไปแล้วหลายหมื่นเครื่อง สำหรับโครงการอีเพย์เมนต์ภาษี กรมสรรพากรดูแลอยู่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกกฎหมายเพื่อดูแลใน 3 เรื่อง คือ ให้สามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นอิเล็กทรอนิกส์ และการขอข้อมูลของบุคคลที่ 3 โดยล่าสุดกฎหมายอยู่ระหว่างการพิจารณาของกฤษฎีกา

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวว่า อีเพย์เมนต์เปลี่ยนระบบการชำระเงินจากเงินสดมาเป็นอิเล็กทรอนิกส์ จะช่วยทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 1.5 แสนล้านบาท เนื่องจากระบบอีเพย์เมนต์ทำให้ข้อมูลซื้อและขายสินค้าถูกส่งมาที่กรมสรรพากร จะช่วยให้การประเมินรายได้และรายจ่ายทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลแม่นยำมากขึ้น เมื่อประเมินภาษีได้ดีขึ้น ทำให้การจัดเก็บภาษีทำได้มากขึ้น ซึ่งนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง มีความเป็นห่วงในเรื่องที่กลุ่มร้านค้ากลัวการติดตั้งเครื่องอีดีซี อาจทำให้แผนการติดตั้งไม่เป็นไปตามที่วางไว้ จึงสั่งการให้สรรพากรไปเร่งทำความเข้าใจกับร้านค้าแล้ว