เผยแพร่ |
---|
จากกรณีที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เห็นชอบรายงานแนวทางการปฏิรูปภาษี ที่มีการเสนอให้รัฐบาลปรับเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT อีก 1% นั้น
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เป็นเพียงการเสนอแนวคิด เพื่อให้รัฐบาลตัดสินใจเท่านั้น ยังไม่มีผลบังคับใช้
ทั้งนี้ การจะปรับเพิ่ม VAT สามารถทำได้ โดยเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี เป็นผู้เห็นชอบ แล้วจึงประกาศเป็นนโยบายบังคับใช้ ซึ่งการปรับเพิ่ม VAT ควรทำในภาวะที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้นกว่านี้ แต่ต้องดูรายละเอียดรายงานของ สนช. ด้วยว่า มีการเสนอปรับลดภาษีส่วนอื่นชดเชยด้วยหรือไม่
ขณะที่ นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า รายงานของคณะกรรมาธิการใน สนช. ไม่ได้ระบุว่า ต้องปรับขึ้น VAT ในปีใด แต่เป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับการที่รัฐบาล มีแผนใช้เวลา 1 ปี เพื่อประเมินการปรับ VAT ซึ่งจะครบกำหนดในเดือนกันยายนนี้
หากรัฐบาลมีมติปรับขึ้น VAT ตามกำหนด หรือในช่วงภาวะเศรษฐกิจไทยยังค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างเปราะบาง เศรษฐกิจระดับรากหญ้ายังมีปัญหาเช่นในปัจจุบัน อาจทำให้เศรษฐกิจเกิดภาวะช็อก ผู้คนจะเร่งรัดการจับจ่ายเร็วขึ้น เนื่องจากไม่ต้องการจ่ายค่าสินค้าที่บวกเพิ่ม VAT ใหม่ นั่นหมายถึง จะทำให้สินค้ามีราคาแพงขึ้น ผลคือจะทำให้เศรษฐกิจหลังจากนั้น ชะลอตัวลงต่อเนื่องไปอีกหลายปี เพราะประชาชนใช้จ่ายไปก่อนแล้ว ทำให้เป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 3.5-3.6 % ในปีนี้ และขยายตัวได้ 3.8-4 % ในปีหน้า เป็นไปได้ยาก
ทั้งนี้นายธนวรรธน์ ประเมินว่า ในไตรมาส 4 ของปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวเต็มที่ และมีความพร้อมมากกว่านี้
ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์