วอนช่วย 2 พ่อลูกปลูกเพิงอยู่ในป่าใช้ผ้าขึงแทนฝากันแดดลม เตาไม่มีต้องใช้ก้อนหินวางกับพื้นดิน 3 มุมแล้วใช้ฟืนหุงข้าวผัดกับข้าว ไม่มีที่นั่งกินต้องยืนกินข้างบ้าน ลูกสาววัย 8 ขวบโรงเรียนใกล้เปิดยังไม่มีเสื้อผ้านักเรียน กระเป๋า เครื่องเขียน วอนผู้ใจบุญช่วย

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่บริเวณกลางไร่อ้อยและสวนปาล์ม บ้านชัยพฤกษ์ หมู่ 3 ต.วังทอง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ผู้สื่อข่าว “ข่าวสด” พบที่อยู่อาศัยที่เป็นเพิงพักหรือกระต๊อบเล็กๆ ฝาใช้ผ้าไวนิลขึงบังไว้ 3 ด้าน อีกด้านใช้ผ้าขึงในส่วนด้านหน้าใช้ผ้าขนหนูขึงแทนประตู พื้นใช้ไม้ไผ่ลำเล็กๆสอดเรียงเป็นพื้น เป็นที่อยู่อาศัยของ 2 พ่อลูก พ่อชื่อนายเสริม แสงรอด อายุ 48 ปี ส่วนลูกสาวชื่อ ด.ญ.อรัญญา หรือน้องบุ๋ม แสงรอด อายุ 8 ขวบ ห้องน้ำห้องส้วมก็ไม่มีเวลาจะขับถ่ายต้องวิ่งเข้าป่าอ้อย เวลาอาบน้ำก็ตักน้ำจากบ่อปลาขึ้นมาอาบกลางแจ้ง โดยใช้พุ่มไม้เตี้ยๆ บัง แต่ก็กันอะไรไม่ได้ ส่วนภายในห้างนาไม่มีของมีค่าแม้แต่ชิ้นเดียว

เวลาจะหุงข้าวแม้แต่เตาก็ยังไม่มี ต้องใช้ก้อนหิน 3 เส้าเรียงกับพื้นดินแทนเตา ใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงสำหรับหุงข้าวและทำกับข้าว ซึ่งสมัยนี้คงไม่มีใครทำแบบนี้อีกแล้ว ส่วนกับข้าวมื้อนี้ก็คือดอกแค และหัวปลีกล้วยผัดน้ำมันใส่น้ำปลา ไม่มีเนื้อสัตว์ แม้แต่อย่างเดียว ส่วนที่กินข้าวก็ใช้พื้นที่ยื่นออกมาจากตัวห้างเพียงเล็กน้อย และต้องใช้วิถียืนกินเพราะไม่มีที่นั่ง บางขณะในช่วงที่ 2 พ่อลูกกินข้าว น้องบุ๋ม ได้ถามพ่อว่าทำไมเราไม่มีเนื้อหมูเนื้อไก่กินบ้าง ทางพ่อก็ตอบลูกสาวว่าเราไม่มีเงินซื้อ มีอะไรก็กินตามมีตามเกิดนะ เมื่อได้ยินแล้วก็รู้สึกสะท้อนใจ

น้องบุ๋ม เปิดเผยว่าตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยได้กินกุ้งตัวเล็กๆแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

จากการสอบถามเรื่องราวชีวิตนายเสริม เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพเป็นคนงานก่อสร้าง รู้จักและอยู่กินกับแม่น้องบุ๋มที่กรุงเทพ จากนั้นก็ย้ายมาที่ อ.ปางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา จนมาคลอดน้องบุ๋ม ต่อมาน้องบุ๋มคลานได้แล้วแม่ของน้องบุ๋มก็ทิ้งตนกับลูกสาวไป เพราะความลำบากยากจน ตนจึงต้องเลี้ยงน้องบุ๋มมาตามลำพังคนเดียวตามมีตามเกิด ระเหเร่ร่อนไปทั่วไม่มีหลักแหล่ง

ต่อมาพี่สาวก็ให้มาช่วยเฝ้าสวนแต่อยู่ในบ้านกับพี่สาวไม่ได้ เพราะลูกหลานหลายคน ตนจึงต้องมาปลูกห้างในป่าอ้อยช่วยพี่สาวดูแลบ่อปลาบ้าง ออกรับจ้างทั่วไปบ้าง ได้ค่าจ้างวันละ 250 บาท แต่ถ้าวันไหนไม่มีใครจ้างก็ไม่มีเงิน น้องบุ๋มปัจจุบันกำลังจะขึ้นชั้น ป.2 ที่โรงเรียนบ้านหนองรี ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 3 กิโลเมตร โดยต้องถีบรถจักรยานไปโรงเรียน บางวันก็ไม่มีเงินให้น้องบุ๋มไปกินที่โรงเรียนเพราะไม่มีเงินติดบ้านเลย แต่น้องบุ๋มก็ไม่เคยว่าอะไร ส่วนจักรยานก็กำลังจะพังน้องบุ๋มอยากได้จักรยานสีฟ้าคันใหม่เพื่อจะขี่ไปโรงเรียนตนยังไม่มีเงินซื้อให้

ทางด้านน้องปุ๋มที่ดูคล้ายเด็กผู้ชายเนื่องจากตัดผมสั้น เปิดเผยว่า สาเหตุที่พ่อพาไปตัดผมสั้นเพราะช่วงผมยาวมีเหาเต็มหัว จึงพาไปตัดจนสั้น โรงเรียนจะเปิดวันที่ 15 พฤษภาคมนี้แล้วเสื้อผ้ากระโปรงมีชุดเดียวแต่ก็เก่ามากและราขึ้นหมดแล้ว กระเป๋าใส่หนังสือก็ขาด เครื่องเขียนแบบเรียนไม่มีแม้แต่อย่างเดียว ถุงเท้ารองเท้านักเรียนก็ไม่มีใส่ แม้แต่รองเท้าแตะที่ใส่ทั่วไปยังไม่มีแม้แต่คู่เดียว เป็นที่น่าเวทนาสงสารมาก

ซึ่งทางสมาคมกู้ภัยข่าวภาพกำแพงเพชร ซึ่งมาพบครอบครัว 2 พ่อลูกที่น่าสงสารนี้ ได้นำเรื่องราวไปแจ้งให้ทางจังหวัดกำแพงเพชร และกาชาดจังหวัดกำแพงเพชร ได้รับทราบข้อมูล และได้นำนายเสริม แสงรอด ผู้พ่อไปเปิดบัญชีไว้

สำหรับผู้ที่ใจบุญจะช่วยบริจาคให้อนาคตน้องบุ๋มได้เรียนหนังสือแบบคนอื่นบ้าง ก็สามารถบริจาคได้ที่หมายเลขบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซีกำแพงเพชร บัญชีประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชีนายเสริม แสงรอด หมายเลขบัญชี 407-950500-7