3เดือนแรกส่งออกไทยโต 4.9% สถิติสูงสุดรอบ17ไตรมาส หลังมี.ค.กลับมาบวก9.2%

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนมีนาคม 2560 กลับมาเป็นบวกอีกครั้ง โดยมีมูลค่า 20,888 ล้านเหรียญสหรัฐ บวก 9.2% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2559 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าขยายตัวดีขึ้น โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้ดีขึ้นและบวก 3.5% จากปีที่ผ่านมา ที่บวก 3.1% กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมเกือบทุกตัวขยายตัวและบวก 8.7% อาทิ ผลิตภัณฑ์ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์แและส่วนประกอบ และสินค้าเกษตร ขณะที่อุตสาหกรรมการเกษตร บวก 12% จากยางพารา ไก่สดแช่แข็ง เป็นหลัก รวมทั้งตลาดส่งออกสำคัญขยายตัว เช่น จีน บวก 47.6% สูงสุดรอบ 5 ปี ญี่ปุ่นบวก 14.9% และยุโรป บวก 10.2% ประกอบกับราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์อยู่ในช่วงขยายตัว

สำหรับการนำเข้า มีมูลค่า 19,271 ล้านเหรียญสหรัฐ บวก 19.3% ผลจากการนำเข้าสินค้าทุนเพิ่มขึ้น อาทิ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ บวก 5.57% เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ บวก 22.42% ทำให้เดือนมีนาคม 2560 เกินดุลการค้า 1,617 ล้านเหรียญสหรัฐ

“ส่งผลให้ไตรมาสแรก 2560 การส่งออก มีมูลค่ารวม 56,456 ล้านเหรียญสหรัฐ บวก 4.9% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และเป็นการเติบโตสูงสุดในรอบ 17 ไตรมาส หรือในรอบกว่า 4 ปี ส่วนการนำเข้า มีมูลค่ารวม 52,404 ล้านเหรียญสหรัฐ บวก 14.8% จึงเกินดุลการค้า 4,053 ล้านเหรียญสหรัฐ กระทรวงพาณิชย์ยังคงเป้าหมายส่งออกทั้งปี 2560 บวก 5% บนคาดการณ์ราคาน้ำมันอยู่ระดับ 50-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ยังไม่มีผลกระทบต่อส่งออก ” นางสาวพิมพ์ชนก กล่าว

นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวถึงการตรียมรับมือและชี้แจงการค้าที่ไทยได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ นั้น ได้หารือกับเอกชนบางกลุ่มแล้ว เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งระบุว่ากังวลบ้างในภาพใหญ่ที่นโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีความไม่เสถียร และกังวลต่อมีปัจจัยสงครามระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐไม่ได้ประมาทกำลังเตรียมข้อมูลการค้าและการลงทุนเพื่อชี้แจงต่อสหรัฐฯ ซึ่งสหรัฐฯไม่ได้เพียงเป็นผู้นำเข้าเท่านั้น แต่เป็นผู้ลงทุนยังประเทศนั้นๆ ด้วย หากจะลุกขึ้นมาทำอะไรก็จะต้องนึกถึงผลได้ผลเสีย ขณะเดียวกันไทยเดินกลยุทธ์ส่งออก แบบกระจายเข้าตลาดใหม่ทดแทนตลาดหลักเดิมด้วย เพื่อลดความเสี่ยง โดยสัปดาห์นี้ยังมีแผนหารือกับภาคเอกชนเพิ่มเติมในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมต่างๆต่อเนื่อง

 

ที่มา มติชนออนไลน์