เผยแพร่ |
---|
วันที่ 21 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณสวนสาธารณะ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือ ทะเลสาบทุ่งนาเชย อ.เมือง จ.จันทบุรี ทางฝั่งหอนาฬิกา บรรดากลุ่มจิตอาสาชาวจันทบุรี ซึ่งมาจากหลากหลายอาชีพการงาน และอายุ จำนวนกว่า 100 คน นำรถกระบะบรรทุกถังน้ำ พร้อมถังอ็อกซิเจน ได้มารวมตัวกันเฉพาะกิจในการลงแรง ร่วมใจช่วยเจ้าหน้าที่ทหารจากกองบัญชาการป้องกันชายแดน จันทบุรี สังกัดกองทัพเรือ ช่วยเคลื่อนย้ายปลาในทะเลสาบสวนสาธารณะ ที่เกิดภาวะน็อคน้ำอย่างกะทันหัน เนื่องจากมาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด และฝนตกหนักสะสมหลายวันติดต่อกัน ทำให้น้ำเกิดมีค่าพีเอชสูงกว่าปกติ และขาดอ็อกซิเจน จนปลาเกร็ดขนาดเล็กหลายแสนตัว พากันลอยคอขึ้นมาหาอากาศหายใจ และมีจำนวนหลายพันตัวลอยตายเกลื่อน
ขณะที่ทางเทศบาลเมืองจันทบรี ได้ระดมเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นำเรือท้องแบน ออกทำการเก็บซากปลาออกจากทะเลสาบ และนำไปฝังกลบเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค โดยเหตุภาวะปลาในทะเลสาบ สวนสาธารณะทุ่งนาเชย ซึ่งเป็นปอดสำคัญของชาวจันทบุรี เกิดน็อคน้ำ ลอยคอตายกะทันหันเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา และในช่วงสายของวันนี้มีปลาเกร็ดขนาดเล็ก โดยเฉพาะปลาตะเพียน ซึ่งเป็นปลาที่มีความต้านทานต่อสภาพอากาศน้อย ได้ทยอยลอยขึ้นมาหายใจเพิ่มมากขึ้นจากเมื่อวาน และมีหลายพันตัวลอยตายไปทั่ว
ทางเทศบาลได้นำเครื่องตีน้ำมาติดตั้งเพื่อช่วยสร้างออกซิเจนในทะเลสาบ พร้อมขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากค่ายตากสิน มาช่วยกางตาข่ายจับปลาขึ้นจากน้ำ ขณะเดียวกันชาวโซเชี่ยลที่ทราบข่าวจาก แฟนเพจกลุ่มจันทบุรี จึงได้นัดแนะมารวมตัวกัน พร้อมกับรถกระบะ มาช่วยเจ้าหน้าที่ขนย้ายปลา ขณะเดียวกันได้มีภาคเอกชน ได้สนับสนุนถังอ็อกซิเจน พร้อมอุปกรณ์มาติดตั้งในรถกระบะแต่ละคัน เพื่อช่วยเพิ่มอากาศระหว่างเคลื่อนย้ายปลาไปยังแหล่งน้ำธรรมชาติใกล้เคียง
ด้านรองนายกเทศมนตรีเมืองจันทบุรี บอกว่า การขนย้ายปลาในทะเลสาบ จะยังคงดำเนินต่อไปตลอดทั้งคืน และอาจต่อเนื่องไปถึงเช้า จนกว่าค่าพีเอชในทะเลสาบจะลดลงจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งจะทำให้ปลาได้ปรับสภาพการหายใจ โดยจะทำการขนย้ายเฉพาะปลาเกร็ดขนาดเล็กที่น็อคน้ำเท่านั้น ส่วนปลาใหญ่ที่ไม่ได้รับผลกระทบ จะปล่อยให้อยู่ในทะเลสาบต่อไป