วันที่ 21 เมษายน 2560 ชาวประมงผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง ในพื้นที่ตำบลเกาะยอ อำเภอเมืองจังหวัดสงขลา ประมาณ 20 ราย เดินทางมาลงชื่อแจ้งความเสียหาย ปลาตาย ที่องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง ภายหลัง ปลากะพงขาวในกระชัง ที่เลี้ยงเอาไว้ โดยรอบเกาะยอ ประสบปัญหาช๊อคตายจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นปลาขนาดใหญ่ น้ำหนักตัวละ 3-4 กิโลกรัม ซึ่งเป็นขนาดที่กำลังจะส่งขายออกสู่ตลาดหลังจากเลี้ยงมานาน 1-2 ปี ทำให้ชาวประมงประสบปัญหาขาดทุนทันที โดยมีมูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาท

นายบรรหาร วรรณโร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลเกาะยอ บอกว่าในหมู่ 1 นั้นมีปลากะขาวช๊อคตายประมาณ 7 ราย สาเหตุนั้นเป็นเพราะมีการระบายน้ำจืดจากหลายอำเภอ ลงสู่ทะเลสาบสงขลา หลังจากมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ ซึ่งมีน้ำจำนวนมากไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลา ทำให้ค่าความเค็มของน้ำในทะเลสาบสงขลาปรับลดลงอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้ ปลากะพงขาว ที่ปกติจะเลี้ยงในน้ำกร่อย ในทะเลสาบสงขลา ขาดออกซิเจนและช๊อตายทันทีหลายพันกิโลกรัม ตามปกติของทุกปี ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป จะไม่มีปัญหาการระบายน้ำลงสู่ทะเลสาบสงขลา แต่ปีนี้มีฝนตกจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาขึ้น

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า น้ำในทะเลสาบสงขลามีปริมาณมาก ขุ่นข้น และมีกลิ่นเหม็น ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุการตายแล้ว เนื่องจากพบว่า ปลากะพงขาว ไม่ได้ตายทุกกระชัง แต่จะตายเป็นจุดๆ จุดละ 3-4 กระชัง ทำให้ต้องมีการตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง

ที่มา มติชนออนไลน์