เปิดเว็บ “ไทยแลนด์มอลล์” ขายปลีกสินค้าไทย

บริษัท มอลล์ (ไทยแลนด์) ผุดเว็บไซต์ ThailandMall นำสินค้าโอท็อปขึ้นการบินไทย พร้อมลุยตลาดค้าปลีกออนไลน์ขายสินค้าไทยทุกประเภท บุกตลาดต่างชาติ 80% เผยสินค้ายอดซื้อฮอต กระเป๋าย่านลิเภา เมืองนครศรี-เนกไท โกมลผ้าโบราณ เมืองแพร่-ไทยโคโคนัทบิวตี้เซ็ต สปาภูตะวันจากสมุทรปราการ ชี้ผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมแล้วกว่า 100 ราย คาดสิ้นปีเพิ่มถึง 5 พันราย ตั้งเป้าระยะยาวเป็นอาลีบาบาสินค้าไทย

นางพรรณประวีร์ กิวานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอลล์ (ไทยแลนด์) จำกัด เจ้าของเว็บไซต์ www.thailandmall.com ให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า นอกจากบริษัทจะเป็นเทรดเดอร์ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) และการบินไทย โดยการนำสินค้าโอท็อปขึ้นไปขายบนเครื่องบินแล้ว ยังทำ e-Marketplace โดยเปิดเว็บไซต์ www.thailandmall.com ให้เป็นอีกหนึ่ง

ช่องทางสำหรับผู้โดยสารที่นั่งการบินไทยมาสั่งสินค้า และเป็นช่องทางร้านค้าทั่วไปมาลงประกาศขายสินค้าบนหน้าเว็บด้วยโดยไม่เก็บค่าแรกเข้า แต่เงื่อนไขคือต้องเป็นสินค้าไทยโดยผู้ประกอบการไทยเท่านั้น นอกจากนี้ บริษัทได้มีทีมบิสซิเนสคอนซัลแตนต์ช่วยผู้ประกอบการถ่ายรูปสินค้า เขียนรายละเอียดของสินค้า และช่วยแปล 3 ภาษา คือ อังกฤษ จีน และญี่ปุ่น โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่จะมีค่าใช้จ่ายก็ต่อเมื่อมีการซื้อขายแล้ว โดยเว็บไซต์จะเก็บค่าธรรมเนียม 5-10% ขึ้นอยู่กับชนิดสินค้า

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์ คือ คนต่างชาติ 80% ส่วนมากจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เคยมาประเทศไทย ชอบความเป็นไทย และสินค้าไทย นอกจากนั้น จะเจาะ 3 ประเทศที่มีการช็อปปิ้งผ่านออนไลน์มากที่สุดในโลก คือ จีน อเมริกา และอังกฤษ โดยภายในเว็บไซต์จะมีร้านค้าออนไลน์ที่รวบรวมสินค้าไทยทุกระดับทุก Category ตั้งแต่อาหารจนถึงหัตถกรรม สปาโปรดักต์ แฟชั่น และจิวเวลรี่ โดยสินค้าทั้งหมดจะต้องผ่านการคัดเลือกและประเมินกำลังการผลิตของผู้ประกอบการว่าเพียงพอหรือไม่ สำหรับมาตรฐานของสินค้านั้น จะต้องมีการสุ่มตรวจ อย่างไรก็ตาม ได้จัดทำให้มีระบบรีวิว ตรงนี้จะเป็นการสกรีนร้านค้าไปในตัว

“เว็บไซต์เริ่มต้นอย่างมีแพสชั่น คือ เรามองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการไทยจริง ๆ ว่ามีสินค้าที่ดี แต่ไม่มีความสามารถมากพอที่จะพัฒนาเรื่องช่องทางการขาย หรือ” การสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย เมื่อเราเห็นปัญหานั้นก็ก้าวเข้ามาเพื่อที่จะช่วย ถามว่าเรามีประสบการณ์ไหม คนทำงานทุกคนต้องมีประสบการณ์ หลายคนทำอีคอมเมิร์ซมา อีกอย่างเราเป็นบริษัทลูกของบริษัท รอยัล สวัสดี อินเตอร์เทรดดิ้ง ที่มีประสบการณ์เรื่องเอสเอ็มอีเป็น 10 ปี เราได้โนว์ฮาวจากตรงนั้นมาช่วยด้วย”

นางพรรณประวีร์กล่าวอีกว่า สินค้าที่นำมาจำหน่ายนั้นค่อนข้างเปิดกว้าง แต่ขอให้เป็นสินค้าคนไทย ผลิตในประเทศไทย คือไม่ใช่ไปนำเข้ามาจากประเทศจีนแล้วมาขายในเว็บไซต์ ตอนนี้เป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยม คือ ผลิตภัณฑ์สปา เช่น ไทยโคโคนัทบิวตี้เซ็ต จากสปาภูตะวัน จังหวัดสมุทรปราการ งานฝีมืออย่างกระเป๋าย่านลิเภา จากจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือเนกไท โกมลผ้าโบราณ เมืองแพร่ กระเป๋าเปลือกไข่นกกระจอกเทศ ของเปลือกไข่วิจิตรศิลป์ แต่สินค้าที่ขายดีจริง ๆ จะเป็นสินค้าที่ราคาจะไม่สูงเกินไปประมาณ 100 เหรียญ หรือ 3 พันกว่าบาท จะได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อ ส่วนลูกค้าที่ซื้อผ่านช่องทางนี้ถ้าให้ประเมินคร่าว ๆ จะเป็นกลุ่มลูกค้าประเทศจีนเกินครึ่งหนึ่ง

“เว็บไซต์เพิ่งเปิดตัวในปีนี้ถือว่ายังใหม่มาก ผู้ประกอบการตอนนี้เพิ่งเริ่มต้นมีประมาณหลักร้อย แต่เชื่อว่าภายในปีนี้จะมีหลักประมาณ 4-5 พันราย ระยะเริ่มแรกนี้เราอยากจะเป็นรีเทลที่แข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการไทยก่อน บอกตามตรงว่าเราพยายามจะช่วยทุกอย่าง ไม่ใช่แค่โปรโมตและไม่ใช่แค่มีพื้นที่ให้คนเอารูปไปโพสต์แล้วจบ แต่เราช่วยซัพพอร์ตไม่ว่าจะเป็นถ่ายรูปให้ ช่วยทำในแง่รายละเอียดให้เขา แปลภาษา ซึ่งเราจริงจังมาก”

กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอลล์ (ไทยแลนด์) จำกัดกล่าวอีกว่า ใน 1-2 ปีนี้จะเน้นให้เว็บไซต์เป็นช่องทางค้าปลีกให้กับทางผู้ประกอบการสินค้าไทยได้มีที่ยืนในตลาดต่างประเทศก่อนส่วนในอนาคตอยากจะเป็นโฮลเซลมาร์เก็ตให้กับคนไทยถ้าต่างชาติอยากสั่งสินค้าไทยเป็นลอต ๆ ก็อยากให้ผ่านช่องทางนี้ คือ อยากเป็นอาลีบาบาสำหรับสินค้าไทย เพราะว่าโอกาสในแง่ของตลาดอีคอมเมิร์ซ์ถือเป็นตลาดที่ใหญ่มากในโลก และพฤติกรรมการช็อปปิ้งของผู้ซื้อแตกต่างจากเดิมมาก จากเดิมซื้อเสื้อผ้าต้องออกไปเดินห้าง แต่ทุกวันนี้เปิดไอจี เฟซบุ๊กก็สั่งซื้อได้ จึงเชื่อว่าตลาดยังใหญ่มาก มีโอกาสเติบโตได้สูง

ขณะที่ในส่วนของการเป็นเทรดเดอร์ นำสินค้าโอท็อปขึ้นไปขายบนการบินไทย เฟสแรก 128 รายการนั้นได้รับความสนใจจากผู้โดยสารพอสมควร ขณะนี้เริ่มเตรียมเฟส 2 แล้ว ซึ่งถ้าใครสั่งซื้อสินค้าตรงนี้ สามารถซื้อได้ 3 ช่องทาง 1.รับสินค้าที่สุวรรณภูมิขาออกได้ 2.ส่งโดเมสติก คือส่งโรงแรมที่ลูกค้าพัก และ 3.คือส่ง Oversea