ถอดบทเรียนความสำเร็จ Loftel Group โฮสเทล พลิกฟื้นชีวิตชุมชนตลาดน้อย

ถอดบทเรียนความสำเร็จ Loftel Group โฮสเทล พลิกฟื้นชีวิตชุมชนตลาดน้อย

ย้อนไปเมื่อราว 15-16 ปีที่แล้ว หากพูดถึงตลาดน้อย ถ้าไม่ใช่คนเก่าคนแก่จริงๆ คงสงสัยว่าที่นี่คือที่ไหนและมีอะไรดี

แต่มาถึง พ.ศ. นี้ เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จัก จากตลาด ที่เคยซบเซากลับมาพลิกฟื้นขึ้นมากลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยววันหยุดสุดสัปดาห์ฮอตฮิตของชาวกรุง ก็ด้วยความร่วมมือร่วมใจของชาวตลาดน้อยที่ตั้งใจพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมรายได้ให้ชุมชน

และปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในผู้ริเริ่มและมีส่วนอย่างยิ่งในการผลักดันให้ที่นี่กลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยว คือการถือกำเนิดขึ้นของ Loftel 22 Hostel โฮสเทลเล็กๆ แห่งแรกในย่าน ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวเทศเข้ามาเยี่ยมเยียนตลาดน้อย

“เป็นคนไม่ค่อยชอบเรียน ไม่อยากเรียนอะไรที่เป็นวิชาการมาก ถ้าไปทางคหกรรมน่าจะเหมาะกับตัวเองมากกว่า เลยเลือกเรียนสาขาครัวที่วิทยาลัยดุสิตธานี” คุณหญิง-เสาวรส อริยรัชโตภาส ผู้ก่อตั้ง Loftel 22 Hostel ในเครือ Loftel Group เท้าความถึงสมัยที่เรียนสาขา Kitchen and Restaurant Management (Le Cordon Bleu Program) วิทยาลัยดุสิตธานี (ปัจจุบันคือหลักสูตรนานาชาติ สาขา Professional Culinary Arts โดยความร่วมมือกับเลอ กอร์ดอง เบลอ)

คุณหญิง เจ้าของเรื่องราว

“ตอนแรกรู้สึกชอบทำอาหาร แต่พอได้มาเรียนที่วิทยาลัยดุสิตธานี กลับพบว่าตัวเองชอบการบริหารมากกว่า เพราะวิทยาลัยไม่ได้สอนแค่ทำอาหารอย่างเดียว แต่สอนให้เป็นนักธุรกิจด้วย เลยทำให้เราเกิดแรงบันดาลใจอยากเป็นเจ้าของธุรกิจมากกว่าเป็นลูกจ้าง”

พอเรียนจบปริญญาตรีจากวิทยาลัยดุสิตธานี คุณหญิง ไปฝึกงานที่สหรัฐอเมริกา 1 ปี เพื่อหาประสบการณ์และเรียนรู้ตัวเองว่า ตนเองต้องการทำอะไรจริงๆ แต่ด้วยความที่เธอชอบท่องเที่ยว ประกอบกับคุณพ่อสนใจตึกหลังหนึ่งที่ตลาดน้อยอันเป็นถิ่นฐานบ้านเกิดของครอบครัว สุดท้ายจึงตกผลึกที่ธุรกิจโฮสเทล

แต่ถ้าย้อนไปเมื่อ 13 ปีก่อนที่เธอเปิดโฮสเทลแห่งแรก สมัยนั้นคำว่า “โฮสเทล” ยังห่างไกลจากคนไทย เพราะการจะให้คนแปลกหน้ามาพักร่วมกันในห้องเดียวกัน ใช้ห้องน้ำรวม ดูเหมือนจะเป็นไปได้ยาก

“ตอนนั้นเพื่อนบ้านรอบข้างในชุมชนไม่มีใครสนับสนุนเลย” คุณหญิง บอกอย่างนั้น ก่อนเผยต่อ

“ความตั้งใจแรกคืออยากพลิกฟื้นชุมชนตลาดน้อยที่ตอนนั้นมันซบเซา คือสมัยเราเป็นเด็ก เวลาเรียกสามล้อไปตลาดน้อย ทุกคนจะรู้เลย แต่พอโตขึ้นมาคนเริ่มไม่รู้จัก เพราะคนในชุมชนแยกย้ายออกไปมีครอบครัว ที่บางส่วนถูกขายทำคอนโด ภายในตลาดค่อนข้างคับแคบ ไม่มีที่จอดรถ ทั้งที่จริงแล้วตลาดน้อยก็คือเยาวราช ตลาดน้อย เกิดมาก่อนเยาวราชซะด้วยซ้ำ

“แต่ต่อมาขยายพื้นที่ออกไปกลายเป็นถนนเยาวราช เราเห็นว่าน่าจะดึงกลิ่นอายความเป็นจีนกลับมาได้ จึงเริ่มต้นด้วยการพูดคุยกับคนในชุมชน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรุ่นเก่าแก่ เป็นพี่เป็นน้องกันอยู่แล้วว่า มาฟื้นฟูตลาดน้อยให้กลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวกันเถอะ เลยนับได้ว่าธุรกิจของครอบครัวเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกที่ทำให้ตลาดน้อยกลับมาฟื้นฟู”

โฮสเทลในเครือ Loftel

สำหรับความท้าทายแรกของเธอ คือการโน้มน้าวให้คนในชุมชนตลาดน้อยเชื่อและมั่นใจได้ว่า การเปิดชุมชนเป็นแหล่งท่องเที่ยวจะนำรายได้จากภายนอกเข้ามาสู่ชุมชน ไม่ใช่เป็นแค่การค้าขายกันเองในหมู่ชุมชนเหมือนแต่ก่อน นอกจากนี้ จะช่วยให้สินค้าและประเพณีบางอย่างอนุรักษ์ไว้ได้ ซึ่งกว่าจะโน้มน้าวใจคนในชุมชนสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

“เชื่อว่า ทุกธุรกิจไม่สามารถยืนโดยลำพังได้ ถ้าไม่มีชุมชนเกื้อหนุนกัน อย่างเช่นธุรกิจที่พัก เราได้คนในชุมชนที่ช่วยแนะนำลูกค้าส่วนหนึ่งมาให้ ขณะเดียวกัน การเปิดโฮสเทลที่นำพานักท่องเที่ยวเข้ามาในชุมชน ช่วยเกื้อหนุนให้ธุรกิจในชุมชนเติบโตและไปต่อได้ แทนที่จะขายกันเองอยู่แค่ในชุมชน จากที่เคยขายได้แค่ 10 กลายเป็นขายได้ 20 30”

“อย่างการเย็บหมอนจีน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ ถ้าไม่มีนักท่องเที่ยวแล้วจะขายใคร แล้วถ้าไม่มีลูกค้า ไม่มีรายได้ ไม่มีการเผยแพร่ออกไปข้างนอก กิจการจะสืบทอดต่อไปได้อย่างไร ตอนแรกที่เปิด คนในชุมชนยังไม่ค่อยเข้าใจ เพราะไม่เคยมีคนนอกเข้ามาในย่านนี้ เขากลัวจะสกปรก มีขโมย หรือเสียงดัง จึงต้องพยายามชวนร้านต่างๆ ให้มาจับมือกัน เช่น ร้านขายอาหารมาทำเมนูภาษาอังกฤษกันไหม แล้วเดี๋ยวเราแนะนำลูกค้าให้ไปอุดหนุน ซึ่งถ้าช่วยกันแบบนี้ก็จะวินๆ ทั้ง 2 ฝ่าย ชุมชนก็คึกคักมากขึ้น ขายของได้ดีขึ้น” คุณหญิง เผย

ความท้าทายต่อมาคือ ในตอนนั้นคุณหญิง ยังไม่มีความรู้ในการทำธุรกิจโฮสเทลอย่างถ่องแท้ ทำให้เมื่อตอนรีโนเวตตึก เลยถูกผู้รับเหมาก่อสร้างเบี้ยวงาน จึงต้องลงมารีโนเวตเอง

เธอเล่าว่า ตอนนั้นท้อใจจนแทบจะเลิกล้มโครงการ แต่สุดท้ายฮึดสู้ ซึ่งกลายเป็นว่า การลงมือทำเองช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 15% เธอยอมเหนื่อยมากหน่อยในตอนเริ่มต้น เพื่อให้อนาคตเหนื่อยน้อยลงเพราะต้นทุนลดลงนั่นเอง กระทั่งสำเร็จเป็น Loftel 22 Hostel ซึ่งเป็นที่พักแห่งแรกในเขตสัมพันธวงศ์ที่เป็นโฮสเทล ขณะที่รายล้อมด้วยโรงแรม Chain ดังๆ ขนาดใหญ่

แต่หลังจากเปิดบริการแล้ว ใช่จะประสบความสำเร็จในทันที โดยคุณหญิง เล่าว่า เปิดตอนแรกแย่มาก ไม่มีลูกค้าเลย เพราะเราไม่รู้วิธีโปรโมต ไม่รู้จักการใช้เอเยนซีหรือพวก Third Party อีกทั้งตอนนั้นโฮสเทลยังใหม่กับคนไทยมาก กระทั่งเจอจุดเปลี่ยนเมื่อมีชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งมารีวิวให้เรา จนกลายเป็นการบอกปากต่อปาก

แต่ต่อมายังมาเจอสถานการณ์โควิดอีก เลยพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยเราไม่ทิ้งพนักงานเลยแม้แต่คนเดียว แต่ชวนพวกเขาให้ย้ายมาพักร่วมกันที่โฮสเทล ใครเช่าห้องไม่ต้องไปเสียค่าเช่า แล้วให้มาเรียนภาษาอังกฤษร่วมกัน ส่วนห้องพักก็เปลี่ยนจากให้ลูกค้าเช่ารายวันเป็นเช่ารายเดือนแทน

ปัจจุบันกิจการของ Loftel Group เจริญเติบโต จนสามารถขยายสาขาเป็นที่พักในรูปแบบโฮสเทลและโรงแรมขนาดเล็กรวม 5 แห่งด้วยกัน ได้แก่ Loftel 22 Hostel ที่เป็นสาขาแรก ตามมาด้วย Loftel Station Hostel, Talakkia Hotel, Four Sisters Homestay และ Taladnoi Paint House ทุกแห่งตั้งอยู่ในบริเวณตลาดน้อยทั้งหมด

คุณหญิง เผยเคล็ดลับความสำเร็จว่า นอกจากเรื่องกลิ่นอายความเป็นจีนเก่าแก่ของตลาดน้อยและทำเลที่ใกล้ท่าเรือและหัวลำโพง สามารถเดินไปริมน้ำ หาของกินตามตรอกซอกซอยแล้ว คงเป็นเรื่องการบริการที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนอยู่บ้าน เวลาทำธุรกิจ จะมองจากมุมของลูกค้าเป็นหลัก ไม่ใช่มุมเจ้าของ ถ้าเราเป็นลูกค้า เราจะชอบหรือไม่ชอบจุดไหน ถ้าลูกค้าตำหนิหรือมีรีวิวไม่ดี ต้องรีบแก้ไขทันทีเท่าที่จะสามารถทำได้

“สมมติค่าที่พัก 300 บาท เราก็จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้ในราคานั้น” คุณหญิง เสริมเรื่องเคล็ดลับความสำเร็จ

“ไม่ใช่จะบี้เพื่อเอากำไรให้มากที่สุด เพราะเราอยากทำแบบระยะยาว ไม่ใช่ฉาบฉวย ไม่ใช่จะทำธุรกิจเพื่อโกยกำไรอยู่แค่ 2-3 ปีแล้วเลิก นั่นไม่ใช่เรา เรามองระยะยาว อยากให้เขามาแล้วก็อยากกลับมาอีก”

ออกสื่อ

แต่เหตุผลหลักของความสำเร็จน่าจะมาจากความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพลิกฟื้นบ้านเกิดของเธอ จนกลายเป็นความเกื้อหนุนกันและกันในชุมชนมากกว่า ที่ผลักดันให้กิจการ Loftel Group ก้าวหน้าเติบโตเช่นที่เห็น

“อยากเห็นตลาดน้อยกลับมาเฟื่องฟู” คุณหญิง ทิ้งท้าย “เพราะเป็นบ้านเกิดเรา ยังไงบ้านเราก็ยังอยู่ตรงนี้ ทั้งตระกูลของเราก็อยู่ที่นี่ และเมื่อกิจการของเราไปได้ดี มันจะดีกับทั้งชุมชนและตัวเราเอง”

ติดตามกิจการของ Loftel Group ได้ที่เฟซบุ๊ก

Loftel 22 Hostel : https://www.facebook.com/loftel22/?locale=th_TH

Loftel Station Hostel : https://www.facebook.com/loftelstation/?locale=th_TH

Talakkia Hotel : https://www.facebook.com/talakkiahotelbkk/?locale=th_TH

Four Sisters Homestay : https://www.facebook.com/foursistershomestay/?locale=th_TH

Taladnoi Paint House : https://www.facebook.com/Taladnoipainthouse/